เร็ว ๆ นี้ผมไปงานเลี้ยงรุ่น และพบสุวัฒน์เพื่อนรุ่นเดียวกัน เขาทำงานบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง ได้บ่นให้ฟังว่ากำลังเครียดกับการเปลี่ยนแปลงในงาน ผมจึงแนะนำหนังสือ “Becoming agile leader” โดย Victoria V. Swisher ให้เขาอ่าน
เรานัดคุยกันสองสัปดาห์ต่อมา
“โค้ช ขอบใจมากที่แนะนำเล่มนี้ ผมชอบมากเลย”
“สุวัฒน์ นายได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้างละ”
“โค้ช หนังสือเล่มนี้สอนให้เราเข้าใจเรื่อง Learning Agility ซึ่งนิยามก็คือ ความพยายามและความสามารถในการเรียนรู้จากประสบการณ์ ซึ่งสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับงานและสถานการณ์ใหม่ ๆ จนทำให้ประสบความสำเร็จได้
หนังสือระบุว่ามีปัจจัยในเรื่องความสามารถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็วอยู่ 5 ลักษณะคือ
1. การเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองอย่างรวดเร็ว คือการตระหนักรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำได้ดี อะไรคือสิ่งที่ทำได้ไม่ดี และสามารถตระหนักรู้ได้เสมอในสิ่งที่ทำได้ไม่ดี
2. การเรียนรู้เกี่ยวกับความซับซ้อนอย่างรวดเร็ว พวกเขาเป็นคนที่มีการคิดเชิงวิจรณญาณที่สามารถขบคิดปัญหาที่ซับซ้อน ประเมินสถานการณ์ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และสามารถที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวใหม่ ๆ ให้คนอื่น ๆ เข้าใจได้อย่างง่ายดาย
3. การเรียนรู้เกี่ยวกับคนอย่างรวดเร็ว พวกเขาเข้าใจคุณค่าของความสำคัญในการทำงานผ่านคนอื่น ๆ และเป็นนักสื่อสารที่ยอดเยี่ยมที่มองเห็นความแตกต่างเป็นโอกาสแทนที่จะมองว่าเป็นความแตกแยก
4. การเรียนรู้อย่างรวดเร็วกับการเปลี่ยนแปลง พวกเขาชอบการทดลองสิ่งใหม่ ๆ และสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว พวกเขาชื่นชอบความคิดสร้างสรรค์ และสนใจที่จะพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
5. การเรียนรู้อย่างรวดเร็วในการสร้างความสำเร็จ พวกเขาสามารถจะสร้างผลสัมฤทธิ์ในงานในเรื่องใหม่ ๆ ได้เสมอ โดยการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มี และเก่งในการจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ได้อยู่เสมอ”
“แล้วนายได้อะไรที่จับต้องได้จากหนังสือเล่มนี้อีก”
“โค้ช แต่ละปัจจัยในการเรียนรู้อย่างรวดเร็วมีแนวทางปฎิบัติให้ด้วย ผมลองยกตัวอย่างบางส่วนในแต่ละปัจจัยให้ฟัง
การเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองอย่างรวดเร็ว: เขาแนะนำให้ทุกครั้งที่ต้องติดต่อกับคนให้ประเมินตนเองตลอดเวลา ว่าเราทำได้ดีเพียงใด เราจะทำให้แตกต่างไปจากเดิมได้อย่างไร โดยเฉพาะในทักษะที่เรากำลังให้ความสนใจจะพัฒนามันให้ดีขึ้น หรือทักษะสำคัญที่มีผลต่อผลงานของเรา ลองขอข้อมูลย้อนกลับจากคนอื่นทันทีหลังการปฎิสัมพันธ์ ทำให้เป็นนิสัย การมองหาข้อมูลย้อนกลับอย่างสม่ำเสมอเพิ่มโอกาสที่จะเข้าใจตนเองอย่างชัดเจนมากขึ้น และเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ประเมินประสิทธิภาพในการสื่อสารของเราได้อย่างทันกาลด้วย
การเรียนรู้เกี่ยวกับความซับซ้อนอย่างรวดเร็ว: ให้หมั่นออกจาก Comfort Zone ที่เราคุ้นเคยสบาย ๆ คนที่ยุ่งมาก ๆ มักจะพึ่งวิธีที่เคยสำเร็จในอดีต เขายึดติดวิธีที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว ด้วยการมีแต่มุมมองเดิม ๆ พวกเขารีบด่วนสรุปเมื่อเกิดปัญหาที่คล้ายคลึงกับปัญหาในอดีต ซึ่งอาจจะผิดพลาดได้ ระวังความคิดที่ว่า “ฉันมักจะใช้วิธีแบบนี้…” หรือ “ปกติฉันก็ใช้วิธีนี้…” หมั่นหยุดสังเกตตัวเองเป็นระยะ แสวงหาทางเลือกอื่น ๆ และถามตนเองว่า “เราอาจจะด่วนสรุปว่าปัญหานี้เหมือนกับปัญหาในอดีต ที่เราเคยเผชิญมาหรือไม่” หรืออาจจะถามตัวเองว่า “ที่จริงแล้วปัญหานี้ต่างจากปัญหาในอดีตอย่างไรบ้าง”
การเรียนรู้เกี่ยวกับคนอย่างรวดเร็ว: ให้ความสำคัญกับสามนาทีแรกเมื่อปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น โทนเสียงเราควรจะเป็นอย่างไร ความประทับใจครั้งแรกที่เกิดเป็นอย่างไร พยายามทำตัวให้เป็นคนเปิดเผยและเข้าถึงได้ง่าย ฟังเพื่อเข้าใจให้มากในช่วงเริ่มต้นการสนทนา ทำให้คนอื่นไม่อึดอัดเพื่อเขาจะได้เล่าเรื่องได้อย่างสบายใจ การสร้างบรรยากาศแบบกันเองในตอนต้น การฟัง การแบ่งปันความคิด การแสดงความเข้าใจ หรือการปลอบใจ คนที่เข้าหาได้ง่ายจะมีโอกาสได้รับข้อมูลมากกว่า รู้อะไรก่อน และทำให้คนอยากทำงานให้มากกว่า ยิ่งคุณทำให้คนสบายใจมากเท่าไรในตอนต้นของการสนทนา คุณยิ่งเข้าใจคนอื่นได้มากขึ้น และคุณก็จะสามารถปรับแต่งการสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น
การเรียนรู้อย่างรวดเร็วกับการเปลี่ยนแปลง: เตรียมตัวให้พร้อมเนิ่น ๆ การเป็นผู้นำมาพร้อมกับความเสี่ยง คุณต้องยืนยันในหลักการของคุณ ต้องจูงใจตัวเองให้เชื่อในสิ่งที่คิดก่อน เตรียมพร้อมที่จะอธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งคนที่ต่อต้านยอมรับ โดยเฉพาะคนที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง หรือคนที่พร้อมจะยกแม่น้ำทั้งห้ามาถกเถียง เขาจะอ้างว่าวิธีอื่นดีกว่า เร็วกว่า หรือถูกกว่า เพื่อให้เตรียมให้พร้อมสำหรับความเป็นไปได้ต่าง ๆ ให้คิดถึงสิบข้อโต้แย้งที่อาจจะเกิดขึ้น และซักซ้อมวิธีการโน้มน้าว ฟังด้วยความใจเย็นในสิ่งที่คนกังวลใจ แสดงความรับรู้ออกมาให้เขาตระหนัก และพยายามอธิบายว่าการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลดีอย่างไรบ้าง
การเรียนรู้อย่างรวดเร็วในการสร้างความสำเร็จ: กล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น จากการวิจัยพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จทำผิดมากกว่าคนทั่วไป คุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เลย หากคุณไม่กล้าลองอะไรใหม่ ๆ เริ่มจากเล็งที่ชัยชนะเล็ก ๆ เพื่อที่จะลุกขึ้นมาใหม่ได้หากเกิดล้มเหลว ที่สำคัญก็คือเรียนรู้จากผลลัพธ์ เริ่มจากงานที่ท้าทายไม่มากนักแล้วขยับความยากขึ้นไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับการรับมอบหมายงานยาก คนส่วนใหญ่ปฎิเสธโอกาสที่ได้รับมอบหมายโดยคำนึงถึงความสบาย แล้วก็มาเสียใจภายหลังเมื่อโอกาสผ่านพ้นไปเสียแล้ว ให้พิจารณางานใหม่ที่ขาดทรัพยากรหรือดูไม่น่าสนใจเอาเลย แต่ให้มองเป็นโอกาสที่จะได้เสริมทักษะใหม่ ๆ และเพิ่มความหลากหลายประสบการณ์ในประวัติการทำงานของเรา”
“น่าสนใจสุวัฒน์ คิดว่าเกิดปัญญาที่ยิ่งใหญ่อะไรจากหนังสือเล่มนี้ละ”
“โค้ช ผมเครียดเพราะว่าอัตตามันหน่วงผมให้อยู่ใน Comfort Zone ผมอยากทำงานแบบเดิม ๆ ในสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ เมื่อผมเริ่มเรียนรู้ได้ว่าผมต้องปล่อยวางอัตตามันก็มีทางออก”
“สุวัฒน์ เรามาติดตามผลกันในสามเดือนข้างหน้านะ”