ผมเชื่อว่าประเทศไทยจะดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาเลย
ในเมื่อเรากำลังคุยกันเรื่องการตั้งคำถาม ผมหวังว่าหากเราสามารถตอบสามคำถามต่อไปนี้ได้ เราจะทำให้คนไทยถามดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
1. อะไรคือความหมายของ “การตั้งคำถามดีขึ้น”
2. ทำไมเราต้องตั้งคำถามดีขึ้น
3. จะตั้งคำถามให้ดีขึ้นได้อย่างไร
1. อะไรคือความหมายของ “การตั้งคำถามดีขึ้น”
การตั้งคำถามให้ดีขึ้น หมายความว่าคุณภาพของคำถามที่เราตั้งกับตนเองหรือกับคนอื่นสร้างคำตอบที่มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อเราตั้งคำถาม คำถามจะไปจุดประกายความคิดของเราหรือของคนอื่น ๆ ดังนั้นหากคำถามที่มีคุณภาพดีขึ้นสมองเราก็จะคิดดีขึ้น เมื่อเราคิดดีขึ้นเราก็น่าจะได้คำตอบที่ดีขึ้นเป็นผลตามมา
ลองมาดูตัวอย่างของคำถามที่ดีขึ้น กันครับ
ชุดคำถามต่อไปนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนโลกใบนี้
A. เซอร์ ไอแซค นิวตัน ถาม “ถ้าผลแอปเปิ้ลร่วงหล่นจากต้น แล้วดวงจันทร์จะร่วงหล่นลงมาได้ไหม” นำไปสู่ทฤษฎีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ทำให้เกิดการคิดค้นเครื่องจักรกล เครื่องกำเนิดไอนำ้ และเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งสำคัญต่อมา
B. อ.อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ถาม “จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันสามารถวิ่งบนแสงได้” ทำให้เกิดทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีนี้ทำให้เรามีมุมมองใหม่เกี่ยวกับอวกาศและเวลา ทำให้เกิดแนวคิดเรื่องควันตั้มฟิสิกส์ที่นำไปสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่มากมาย
คราวนี้ลองมาดูคำถามในยุคเรากันบ้าง
C. “เราจะสร้าง Search Engine ที่ดีที่สุดในโลกได้อย่างไร” เป็นคำถามของสองผู้ก่อตั้งกูเกิ้ลคือ เซอร์เก้ บริน และแลร์รี่ เพจ
D. คนดังที่ล่วงลับไปแล้วคือ สตีฟ จ็อปส์ “เราจะสร้างโทรศัพท์ที่เราหลงรักมันได้อย่างไร” เป็นกำเนิดของไอโฟนที่มีสาวกมากมาย
E. คราวนี้ผมจะลองถามคำถามให้ท่านลองเดาดูบ้างครับ “มีคำถามอะไรที่ทำเงินได้ปีละ 134 พันล้านดอลลาร์” ลองหยุดอ่านตรงนี้แล้วเดาดูครับ ในตอนท้ายของบทความผมจะเฉลยให้ทราบครับ
ผมคิดว่าตอนนี้เราคงพอมีไอเดียกันละครับว่าอะไรคือความหมายของ “การตั้งคำถามที่ดีขึ้น” กันแน่
ผมมีตัวอย่างของ ‘3 คำถามที่มีคุณภาพ’ ที่ผมได้รับประโยชน์มากมายเลยจากมันคือ
a. คำถามอะไรท่ีเปลี่ยนแปลงชีวิตผม
b. คำถามอะไรที่ผมได้เรียนรู้มากที่สุด
c. คำถามที่ผมชอบมากที่สุดคืออะไร
คำถามแรกที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผมมากคือคำถามที่ผมตั้งตอนเจอปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ด้วยตนเอง ผมจะถามตัวเองว่า “ถ้าปัญหานี้เกิดกับพ่อผม ท่านจะคิดแก้ไขอย่างไร” แล้วผมก็มักจะได้คำตอบดี ๆ ด้วยการคิดด้วยตนเองจากคำถามนี้
ที่มาของคำถามนี้มาจากหนังสือ วิธีชนะมิตรและจูงใจคน ของเดล คาร์เนกี ซึ่งเขียนไว้ว่า ประธานาธิบดีธีโอโดร์ โรสเวลต์ กล่าวว่าถ้าเขาเผชิญความยุ่งยากในขณะเขาเป็นประธานาธิบดีเขาจะมองไปที่ภาพวาดปธด.ลินคอล์น ในทำเนียบขาว แล้วถามตัวเองว่า “ถ้าเป็นลิงคอล์นจะทำอย่างไร”
คำถามที่สองที่ทำให้ผมเรียนรู้มากที่สุดคือ คำถามที่ว่า “ที่บอกว่า…หมายความว่าอะไรครับ” เป็นคำถามที่ช่วยให้ผมเข้าใจคนอื่น ๆ ได้มากมายเลยครับ เพราะว่าคนส่วนใหญ่พูดจาออกมาได้ไม่ชัดเจนเท่ากับความคิดที่เขาต้องการสื่อสารออกมา คำถามนี้ช่วยป้องกันการด่วนสรุป และป้องกันความเข้าใจผิดจากการสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยมเลย
คำถามที่สามคือ “ใครคือคนที่เป็นคนต้นแบบของคุณ และเหตุผลอะไรที่เลือกเขาเป็นคนต้นแบบ” คำถามนี้ทำให้ผมเข้าใจ ค่านิยม ความเชื่อ หลักการ และพื้นฐานของคนที่เราถามเขามากในเวลาอันสั้น
คราวนี้ เราลองคิดดูซิครับว่า ‘3 คำถามที่มีคุณภาพ’ ของคุณคืออะไรบ้าง
เรามาต่อกันนะครับ
2. ทำไมเราต้องตั้งคำถามให้ดีขึ้นกันละครับ
จากหนังสือ A more beautiful question โดย Warren Berger เขายกคำพูดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่บอกว่า “หากผมมีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการแก้ปัญหาที่สำคัญมาก ๆ ผมจะใช้เวลาใน 55 นาทีแรกให้แน่ใจว่าผมระบุคำถามที่ถูกต้องออกมาให้ได้ก่อน”
จาก YouTube: David Sotir – University of Technology Study, ระบุว่า “การคิดเชิงวิจารณญาณ คือเรื่องของการตั้งคำถาม วิเคราะห์และประเมินข้อมูล แล้วตัดสินใจบนฐานข้อมูลที่มี”
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ชัดเจนมากว่าการตั้งคำถามที่ดีขึ้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับพวกเราทุกคน
เอาละครับมาถึงส่วนที่สามกัน
3. จะตั้งคำถามให้ดีขึ้นได้อย่างไร
ผมมีข้อเสนอแนะว่า
1. วิจัยค้นคว้า: มองหาคำถามดี ๆ แล้วเก็บสะสมคำถามเหล่านั้นไว้
2. ถามเยอะขึ้น: ถามมากว่าพูด ฝึกถามทุกคนทุกโอกาส
3. พยายามถามด้วยคำถามเปิด: ด้วยการถาม อะไร ทำไม เมื่อไร อย่างไร ใคร ที่ไหน และถ้า…
4. ถามคนเก่ง: หมั่นฝึกถามคนเก่ง ๆ ด้วยชุดคำถาม ‘3 คำถามที่มีคุณภาพ’
5. ทบทวน: แต่ละวันมีคำถามอะไรที่ทำให้ฉลาดเพิ่มขึ้น เราจะพัฒนาการถามของเราให้เก่งขึ้นได้อย่างไร
ผมเชื่อว่าหากเราประยุกต์สิ่งที่ได้เรียนรู้ในบทความนี้ เราจะเป็นนักคิดที่คิดเก่งขึ้นแน่นอนครับ
เฉลย: “คำถามอะไรที่ทำเงินได้ปีละ 134 พันล้านดอลลาร์” คือ “คุณกำลังคิดอะไรอยู่” บนกล่องอัพเดตสถานะบน Facebook