จากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสพบผู้บริหารไทยที่ดีและเก่ง
พวกเขามีแบบแผนอะไรที่คล้ายกันบ้าง
จากที่เห็น ผมสังเกตว่าแต่ละคนจะมีบุคลิกลักษณะแตกต่างกัน…
– บางคนเรียนเก่งตอนเด็ก บางคนเรียนปานกลาง บางคนโดดเรียนเก่ง
– บางคนชอบพบปะผู้คน บางคนชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียว
– บางคนมองโลกสวยทุกเรื่อง บางคนมองแง่ร้ายกว่าคนอื่น
– บางคนตื่นเช้า บางคนตื่นสาย
– บางคนดื่มจัด บางคนไม่ทานเนื้อสัตว์
สมัยทำงานใหม่ ๆ ผมคิดว่าน่าจะมีพิมพ์เขียวแล้วเราก็ทำตาม
ก็หาพิมพ์เขียวไม่เจอ…
พอทำงานไปสักพัก ได้อ่านหนังสือ How To ต่าง ๆ หลายตำรา
ก็เริ่มสับสน เพราะมีหลายรูปแบบเหลือเกิน ลองทำตามได้ไม่หมด…
จนกระทั่งได้พบปะตัวจริง ของคนดีและเก่ง จำนวนมากพอสมควร
จากประสบการณ์ที่ผมเห็น พอจะประมวลได้ก็คือ
พวกเขามี “4-รู้” คือ…
1. รู้เรา: คือรู้ว่าเรามี จุดแข็ง จุดอ่อน ความเชื่อ และเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อะไร
2. รู้เขา: คือรู้ว่าเส้นทางสู่เป้าหมาย ใครคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เขาคาดหวังอะไร และจะส่งมอบอย่างไร
3. รู้งาน: คือรู้บริบทของ องค์กร วัฒนธรรม อุตสาหกรรม คืออะไร
4. รู้ชวน: คือรู้ว่าจะโน้มน้าว ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในแต่ละบริบท ได้อย่างไร
ลองมาขยายความกันหน่อยครับ
1. รู้เรา: คือรู้ว่าตัวเองมี จุดแข็ง จุดอ่อน ความเชื่อ และเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อะไร
เขาจะพยายามใช้จุดแข็งของตนสร้างคุณค่า และไม่พยายามใช้พลังเยอะไปในการแก้จุดอ่อน
แต่หาวิธีจัดการจุดอ่อน เช่นหาคู่หูคนที่มีสิ่งที่เขาขาดไปมาเสริม
2. รู้เขา: คือรู้ว่าเส้นทางสู่เป้าหมาย ใครคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบ้าง เขาคาดหวังอะไร จะส่งมอบอย่างไร
และหากคนสำคัญที่เราส่งมอบให้ไม่สมหวังเราจะสื่อสารอย่างไรให้พอผ่านไปได้
ข้อนี้เป็นเรื่องที่คนมักมองข้าม ไม่ประเมินว่ามีใครบ้างที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญ
และเขาแต่ละคนคาดหวังอะไร และเราส่งมอบให้เขาได้ดีเพียงใด
โดยเฉพาะคนสำคัญที่บางครั้งเราอาจส่งมอบได้ไม่ดีมากนัก แต่ต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจให้ได้
3. รู้งาน: คือรู้บริบทของ องค์กร วัฒนธรรม อุตสาหกรรม คืออะไร
องค์กร เริ่มต้น ขาขึ้น ขาลง หรือคงตัว
วัฒนธรรม ทันสมัย อนุรักษ์นิยม เสรีนิยม ไร้รูปแบบ (ด่วนตลอด)
ต้องเรียนรู้เร็วเพื่อให้เข้าใจปัจจัยความสำเร็จในอุตสาหกรรมที่เขาอยู่
และต้องเรียนรู้ว่า อุตสาหกรรมนั้นอาจไม่ Fit กับเรา และรีบเดินออกมา
4. รู้ชวน: คือรู้ว่าจะโน้มน้าว ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในแต่ละบริบท ได้อย่างไร
รู้ว่า แต่ละผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในแต่ละบริบท ต้องใช้กลยุทธ์ในการโน้มน้าวต่างกัน
เรียนรู้ว่าคนแต่ละคนแตกต่างกัน
และเรียนรู้ที่จะใช้วิธีสื่อสารโน้มน้าวที่หลากหลายมากกว่าวิธีเดียว
ทั้งหมดนี้ Simple but not easy.
ฟังดูพื้น ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ไม่ง่าย
ลองประยุกต์ใช้ดูครับ
หากจะให้เร็ว หา Mentor / Coach มาช่วยให้เราไปได้เร็วขึ้นครับ