1. ดื้อเงียบคืออะไร
ดื้อเงียบ คือการที่เราฟังความคิดเห็นของผู้อื่นแล้วไม่เห็นด้วย
แต่เราไม่ได้แสดงความคิดเห็นของเราออกมาเพื่อที่จะหารือถึงความคิดที่เป็นไปได้ที่สุด
2. ส่งผลอย่างไร
ส่งผลให้เราอาจจะตกปากรับคำว่า “จะทำตามความคิดของผู้อื่น” โดยที่ในใจเราอาจจะคิดอยู่ว่า
– รับปากไปก่อนว่าจะทำตามความคิดของผู้อื่นที่เราไม่เห็นด้วยมากนัก
โดยเราคงไปทำแบบขอไปที ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรไม่ใช่ความรับผิดชอบของเรา
ซึ่งหากเป็นงานที่ยากและซับซ้อน โอกาสที่เราจะทำแบบมุ่งมั่นก็จะมีน้อย
ดังนั้นผลสำเร็จของงานคงออกมาไม่ดีเท่าที่คาดไว้
– รับปากไปก่อน แล้วไปทำตามแบบที่เราคิดว่าดีกว่า
ซึ่งหากผลออกมาดีและผู้อื่นไม่รู้ว่าวิธีอะไรก็เสมอตัว
แต่ว่าหากผลออกมาไม่ดีและผู้อื่นรู้ว่าเราไปทำอีกแบบต่างจากที่แนะนำไว้
เราอาจจะถูกมองว่า “ไม่รับผิดชอบ เพราะสัญญาไว้แล้วไม่ทำตามสัญญา”
3. สาเหตุมาจากอะไร
ดื้อเงียบมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ดังนี้
– หัวหน้ามีอัตตาสูง มักไม่รับฟังความคิดของลูกน้อง ส่งผลให้ลูกน้องไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิหรือถูกมองว่าไม่เคารพหัวหน้า
– เรามีอัตตาต่ำ ไม่กล้าแสดงความคิดเพราะคิดว่า “กลัวผู้อื่นไม่ชอบ” ส่งผลให้เราเลือกที่จะเงียบไปแทนที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวว่าจะถูกมองว่าเป็นพวกหัวดื้อหรือเอาแต่ใจ
– ขาดทักษะ แม้ว่าหัวหน้าจะเป็นคนที่รับฟังเสมอ และเราก็อยากจะแสดงความคิด แต่เวลาพูดออกไปแล้วสับสน คนมักจะจับประเด็นไม่ได้ว่าเรามีความคิดที่ดีอย่างไร เมื่อลองทำหลาย ๆ ครั้งแล้วไม่เวิร์คก็อาจจะเลือกที่จะเงียบแทน
4. เราควรจัดการตัวเองอย่างไร
หากเราพบว่าตัวเองเป็นคนดื้อเงียบ เราควรจัดการตัวเองดังนี้
– หากหัวหน้าอัตตาสูงไม่รับฟังความคิดของลูกน้อง เราอาจจะต้องรอจังหวะที่จะขอเข้าไปหารือ ซึ่งอาจจะเป็นการหารือนอกรอบการประชุมแบบเป็นทางการ ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะการคุยกันแบบตัวต่อตัว หรืออาจจะต้องหารือกับคนที่หัวหน้าไว้ใจแล้วขายความคิดเราให้เขาไปขายความคิดต่อ
– หาทางจัดการความคิดของตัวเอง อาจจะต้องปรึกษา Mentor / Coach / กัลยาณมิตร ในเรื่องระดับอัตตาที่เหมาะสม
– ฝึกฝนและพัฒนาทักษะในการนำเสนอความคิด อาจจะต้องฝึกพูดต่อหน้าคนอื่นบ่อย ๆ หรือปรึกษา Mentor / Coach / กัลยาณมิตร ในเรื่องทักษะการสื่อสารและนำเสนอความคิด
5. ตัวอย่าง
สมมติว่า คุณเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง คุณได้รับมอบหมายให้ทำงานโปรเจ็กต์ใหม่ ซึ่งคุณมีความคิดที่แตกต่างจากหัวหน้าอยู่หลายเรื่อง แต่คุณเลือกที่จะเงียบไป เพราะคุณกลัวว่าหัวหน้าจะตำหนิหรือมองว่าคุณไม่เคารพหัวหน้า
ผลที่ตามมาคือ คุณอาจจะทำโปรเจ็กต์ออกมาได้ไม่เต็มที่ เพราะคุณไม่ได้แสดงความคิดเห็นของคุณออกมาอย่างเต็มที่ ส่งผลให้โปรเจ็กต์อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
หรือสมมติว่า คุณเป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คุณมีความคิดที่จะนำเสนอผลงานวิจัยชิ้นใหม่ของคุณ แต่คุณกังวลว่าอาจารย์ที่ปรึกษาของคุณจะไม่เห็นด้วยกับความคิดของคุณ คุณจึงเลือกที่จะเงียบไป
ผลที่ตามมาคือ คุณอาจจะไม่ได้พัฒนาความคิดของคุณอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผลงานวิจัยของคุณอาจจะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
ดังนั้น หากเราพบว่าตัวเองเป็นคนดื้อเงียบ เราควรรีบจัดการตัวเองให้เร็วที่สุด
เพราะดื้อเงียบเป็นอุปสรรคที่ทำให้เราไม่ก้าวหน้า