3.3.26 ความเป็นไทยกับความเป็นทีม

ปัญหา

ในงานที่ซับซ้อน และต้องใช้ความรู้ในการจัดการ หรือที่เราเรียกว่า Knowledge Workers นั้น ผมมีข้อสังเกตว่า “คนไทยส่วนใหญ่ทำงานเป็นทีมได้แบบพอผ่าน”

น้อยครั้งมาก ที่จะเห็นการทำงานเป็นทีมแบบยอดเยี่ยม
อาจจะมีบางทีมที่เริ่มต้นแบบพอไปได้ หลังจากทำงานเป็นทีมไประยะหนึ่งก็ปรับตัวขึ้นมาเป็นทีมที่ดี
แต่มีน้อยทีมมาก ที่พัฒนาการทำงานเป็นทีมที่ดีไปสู่จุดที่เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม

นิยามของคำว่า “ทีมที่ยอดเยี่ยม” ในความเห็นผม คือ “ทีมที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มีพันธกิจหลักที่สอดคล้องวิสัยทัศน์ มียุทธศาสตร์ที่ดี มีค่านิยมร่วมกันที่คนในทีมเคารพและปฎิบัติ และสามารถทำให้ทุกคนได้มีโอกาสใช้จุดแข็งสร้างผลงานให้ทีม โดยทีมยอดเยี่ยมจะได้ทั้งผลลัพธ์ที่ดีและความสัมพันธ์ที่ดี”

สาเหตุเท่าที่เห็นว่าคนไทยทำงานเป็นทีมได้ไม่ดีเท่าที่ควร น่าจะมาจาก…

  1. ประนีประนอม
    คนไทยจะประนีประนอมกันมาก จึงมักไม่ Feedback กันตรง ๆ เมื่อเห็นใครทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่กลับไป นินทากันลับหลังได้
  2. เกรงใจ
    เรามักจะรักษาน้ำใจ ไม่พูดอะไรตรง ๆ เห็นเพื่อนทำงานแล้วคิดว่าต้องปรับปรุงก็ไม่บอกเพราะเกรงใจ
  3. อาวุโส
    บางคนที่มีอายุมากกว่า หรือตำแหน่งสูงกว่า ก็มักจะคิดว่าความคิดตนเองดีกว่าคนอื่น แต่ว่าในการทำงานเป็นทีมในยุค Knowledge Worker นั้น แต่ละคนมีความชำนาญแตกต่างกัน โดยเฉพาะหากเป็นทีมบูรณาการที่มีคนมาจาก Cross-Functional หลายฝ่าย บางคนใหญ่ในฝ่ายตนแต่มาอยู่ในทีมก็มีสถานภาพเป็นสมาชิกคนหนึ่ง แต่กลับยึดติดหัวโขนเดิม ทำให้ทีมงานคนอื่น ๆ ลำบากใจไปด้วย
  4. วุฒิภาวะ
    หลายคนอายุเยอะแต่วุฒิภาวะไม่เยอะ เอะอะโวยวาย ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ คิดเล็กคิดน้อย ทัศนคติลบตลอด เมื่อมีคนแบบนี้ในทีมหลาย ๆ คน บรรยากาศที่สร้างสรรค์ก็ไม่เกิด
  5. ความแตกต่างของระดับ Critical Thinking (CT)
    บางคนมี CT ดี บางคนมี CT ไม่ดี ปัญหาคือคนที่ CT ไม่ดีอาจไม่ตระหนัก เมื่อมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ตรรกในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจึงไม่เท่ากัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอัตตาสูงก็อาจเกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นขึ้นได้
  6. ไม่มีใครอยากเป็นหัวหน้า
    หลายคนที่มีคุณสมบัติเหมาะจะเป็นหัวหน้า พอเห็นปัญหาเหล่านี้ก็เลยไม่อยากอาสา ทำให้ทีมงานทำงานแบบไม่มีทิศทางเท่าที่ควร เพราะว่าไม่มีใครบางคนมา “เคาะ” หรือตัดสินใจเมื่อทีมเห็นต่างกัน ทีมงานจึงเสียเวลากับการพยายามทำให้ทุกฝ่าย “พึงพอใจ” ซึ่งสุดท้ายมักจะจบลงด้วยการทำให้ “ทุกฝ่ายไม่พึงพอใจ” ได้เลย

แนวทางแก้ไข

  1. แต่งตั้งคนที่มีภาวะผู้นำในการนำทีมที่ดีขึ้นเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งควรจะมี บารมี วุฒิภาวะ CT และมีทักษะการโน้มน้าวที่ดี
  2. หัวหน้าทีม รับวิสัยทัศน์จากคนที่แต่งตั้งมา แปลงเป็นพันธกิจหลัก ยุทธศาสตร์ และค่านิยมหลัก
  3. หัวหน้าทีมนำค่านิยมหลักมาหารือกับทีมเพื่อสร้าง Norm หรือบรรทัดฐานในการทำงานเป็นทีมร่วมกัน โดยเฉพาะต้องเน้นค่านิยมที่จะทำให้ปัญหาจากเรื่อง “ประนีประนอม/เกรงใจ/อาวุโส/วุฒิภาวะ/ระดับ CT ต่างกัน” มีน้อยลงเท่าที่จะทำได้
  4. บริหารทีมด้วยแนวทางการบริหารโครงการ โดยการวางแผนงานโครงการ วางแผนจัดสรรคนให้เหมาะกับงาน วางแผนทรัพยากร และวางแผนปฎิบัติงานที่ชัดเจนพอสมควร
  5. ลงมือทำตามแผนงาน โดยมีการสื่อสารติดตามผลเป็นระยะ
  6. เมื่อมีใครทำได้ดีตามแผนงาน สื่อสารชมเชย
  7. เมื่อมีใครทำไม่ได้ตามแผนงาน เข้าไปคุยกับเขา หาสาเหตุ และร่วมกันแก้ปัญหา