หนังสือ Authentic Happiness ยกงานวิจัยซึ่งจำแนกคนทำงานว่า มีแรงจูงใจหลัก ในการทำงานเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรก มองงานของตนว่าเป็น job คือทำงานเพื่อการเลี้ยงชีพ
กลุ่มสอง มองว่าเป็น career คือทำงานเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ
กลุ่มสาม มองว่าเป็น calling คือทำงานเพราะคุณค่าที่มีความหมายกับชีวิต
จากประสบการณ์ ผมเคยเห็นตัวอย่างทั้งสามในทุก ๆ งาน
แต่อยากลองยกตัวอย่างงานแม่บ้านที่ทำความสะอาดในสำนักงานของคนสามกลุ่มมาให้ดู
แจ๋ว ทำงานแลกกับเงิน น้อยมากที่เธอจะบอกกับเพื่อนเธอว่าเธอทำอะไรอยู่ สลากกินแบ่ง และหวย คือความหวังเดียวของเธอที่จะหลุดพ้นจากงานนี้ เธอนั่งนับวันว่าเมื่อไรจะวันหยุดยาวเสียที แจ๋วมองงานเธอคือ Job
เล็ก ทำงานหนัก ไม่ค่อยชอบสิ่งที่เธอทำมากนัก เธอหวังว่าจะเป็นหัวหน้าหรือไม่ก็ย้ายไปเป็นพนักงานรับโทรศัพท์โดยเร็ว เมื่อใดก็ตามเพื่อนเธอได้รับการโปรโมทเธอมักจะคิดว่าคนผู้นั้นข้ามหัวเธอไป หรือไม่ก็หัวหน้าไม่ยุติธรรม เวลาหัวหน้าเดินมาตรวจงาน เธอจะขมีขมันเป็นพิเศษ และมักจะบ่นต่อว่าคนที่มาใช้ห้องน้ำว่า ทำห้องน้ำสกปรกเสมอ เธออยากให้หัวหน้ารู้ว่าเธอขยันมากขนาดไหน เธอมองงานเป็น Career
กุ้ง เธอยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ เธอมักจะฮัมเพลงอย่างมีความสุขระหว่างทำความสะอาดห้องน้ำ เธอมักจะแนะนำเพื่อนและญาติมาทำงานที่นี่ เธอจะสุขใจมากหากคนเดินออกจากห้องน้ำอย่างมีความสุข เธอมองว่าตัวเธอนั้นเป็นผู้นำความสุขมาสู่คนอื่น สำหรับเธอแล้วความสะอาดหมายถึงความสุข สำหรับกุ้งแล้วงานที่เธอทำคือ Calling
ตัวอย่างของทั้งสามคนเป็นตัวอย่างจริงที่เราสามารถจะเห็นได้
หากว่าคนอย่างกุ้งสามารถจะมองหาความหมายจากงานของเธอได้
พวกเราทุกคนก็น่าจะมองหาความหมายจากงานของเราแต่ละคนได้เช่นกัน
เราสามารถทำงานอย่างมีความสุขได้หากมีมุมมองที่ดีกับงานของเรา
ถามตัวเองดูว่า
– อะไรคือวัตถุประสงค์ของงานเรา
– เรามาทำงานเพื่ออะไร
– สิ่งที่เราทำมีความหมาย/คุณค่า ต่อคนอื่นอย่างไร