ในหนังสือ ผู้นำเหนือระดับ (Leading at a higher level) ของเคน บลังชาร์ด เขียนว่าแหล่งที่มาของอำนาจมี 5 แห่ง คือ อำนาจจากตำแหน่งหน้าที่ จากตัวบุคคล จากงาน จากความสัมพันธ์ และจากความรู้
- อำนาจจากตำแหน่งหน้าที่เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด เพราะมาพร้อมกับนามบัตรหรือการแต่งตั้งว่าคุณมีอำนาจสั่งการและควบคุมคนและทรัพยากรได้ แต่คุณพ่อของเคนซึ่งเป็นนายทหารในกองทัพเรืออเมริกากล่าวไว้ว่า ผู้นำที่ดีที่สุดคือ คนที่มีอำนาจจากตำแหน่งหน้าที่ แต่ไม่เคยคิดจะใช้อำนาจนั้น
- อำนาจจากตัวบุคคลมาจากลักษณะเด่นของคนคนนั้น เช่น การมีบุคลิกเข้มแข็ง การมีความมุ่งมั่น สร้างแรงบันดาลใจเก่ง หรือเฉลียวฉลาด อำนาจจากตัวบุคคลจะโดดเด่นมากขึ้นหากเก่งในเรื่องการสื่อสารและการโน้มน้าวจูงใจคน
- อำนาจจากงาน เช่น หากคุณเป็นเลขานายใหญ่ คุณมีอำนาจที่สามารถจะเร่งหรือดองเรื่องของใครก็ได้
- อำนาจจากความสัมพันธ์มาจากการที่คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆ อาจจะมาจากการสร้างความสัมพันธ์ฉันเพื่อน ความพยายามที่จะเข้าใจผู้อื่น การสะสมสายสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน หรือการที่เคยช่วยเหลือผู้อื่นมาก่อน
- อำนาจจากความรู้มาจากการที่คุณมีความเชี่ยวชาญหรือทักษะเฉพาะด้าน หรืออาจจะมีวุฒิบัตรจากการผ่านการอบรมเรียนรู้ อำนาจจากความรู้นี้สะสมมาจากงานและองค์กรที่คุณเคยมีประสบการณ์ เราแต่ละคนมีความรู้อะไรบางอย่างที่โดดเด่นกว่าคนอื่น”
ในหนังสือผู้เขียนบอกว่าคุณพ่อของเขาซึ่งเป็นนายทหารใมนกองทัพเรืออเมริกาบอกว่า “ผู้นำที่ดีที่สุดคือคนที่มีอำนาจจากตำแหน่งหน้าที่แต่ไม่เคยคิดจะใช้อำนาจนั้น”
นอกจากนี้ในท้ายบท ผู้เขียนได้ระบุว่า “จงอย่ายึดติดกับความเชื่อดั้งเดิมว่า อำนาจที่เกิดจากตำแหน่งหน้าที่นั้นจึงจะเป็นอำนาจที่ใช้ไดผล”
ดังนั้น เราแต่ละคนสามารถจะพัฒนา “การมีอำนาจ” ได้หลากหลาย ไม่ต้องรอให้มีตำแหน่งแต่งตั้ง
ยิ่งในยุคที่ Social Media เข้าถึงได้ง่าย หลายคนจึงอาจจะมีอำนาจจากการมีความรู้เฉพาะด้านขึ้นมา กลายเป็น Micro Influencer (ผู้นำทางความคิดผ่าน Social Media ใดก็ตามที่มีผู้ติดตาม 5,001-100,000 คน)
บางคนมีลักษณะเด่น ชอบทำความดี จนสังคมยอมรับ ก็กลายเป็น “การมีอำนาจ” อีกแบบหนึ่ง