การโค้ชผู้บริหาร

เครื่องมือการพัฒนาผู้บริหารทรงพลัง

Executive Coaching_greyscaled_gradiented_x400
ความคิดชัดเจน
เหมือนมีบอร์ดส่วนตัว

หน้าแรก > บริการต่าง ๆ > การโค้ชและการใช้พี่เลี้ยงผู้บริหาร > การโค้ชผู้บริหาร

นิยามของการโค้ชผู้บริหาร

The International Coach Federation (ICF) ได้ให้นิยามของคำว่า coaching ว่า “coaching คือความร่วมมือระหว่างโค้ชและผู้ที่ได้รับการโค้ช โดยมีขั้นตอนและกระบวนการ รวมถึงมีการท้าทายเชิงความคิด เพื่อเป็นการจุดประกายให้ผู้ที่ได้รับการโค้ช ได้เห็นโอกาส และเกิดแรงบันดาลใจในการใช้ศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง เพื่อสร้างความสำเร็จทั้งในด้านส่วนตัวและในหน้าที่การงาน”

ในขณะที่  Worldwide Association of Business Coach ได้ให้นิยามของ Business Coaching ไว้ว่า คือกระบวนการที่มีส่วนร่วมในการสื่อสารอย่างมีความหมายระหว่างบุคคล ในเชิงธุรกิจ องค์กร สถาบัน หรือราชการ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความ

สำเร็จในทุกระดับขององค์กร และสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวบุคคลเหล่านั้น
Jane Renton ผู้เขียนหนังสือ Coaching and Mentoring ยกนิยามจาก Sir John Whitmore ว่า การโค้ชคือการปลดปล่อยศักยภาพของบุคคล เพื่อให้เขาได้ใช้ศักยภาพในการสร้างผลงานของเขา เป็นการช่วยให้เขาเรียนรู้มากกว่าที่จะใช้วิธีสอนหรือบอก

เนื่องจากมีความหลากหลายในเรื่องของนิยามของคำว่าการโค้ชผู้บริหาร  ผมจึงขอประมวลเป็นนิยามที่ผมใช้คือ  “การช่วยผู้บริหารท่านหนึ่ง ให้พัฒนาในเรื่อองใดเรื่องหนึ่ง จากจุดใดจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง”

ประโยชน์เมื่อผู้บริหารมีโค้ช

ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จแต่ละท่านก็มีความสามารถสูง ๆ ทั้งนั้นจึงได้รับการแต่งตั้งขึ้นมา  ทำไมท่านเหล่านั้นจึงต้องมีโค้ชด้วย

จากประสบการณ์  สาเหตุที่ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจจ้างโค้ชมา มีสี่กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

> ผู้บริหารที่เก่งแล้วต้องการให้เก่งขึ้นไปอีก  ในกรณีนี้ตัวอย่างคืออีริค สมิท ประธานฯกูเกิ้ล หรือสตีฟ จ็อปส์  ซึ่งทั้งสองคนมีโค้ชคนเดียวกันคือ  บิล แคมเบล

> ผู้บริหารที่เก่งบางเรื่องแต่ไม่เก่งบางเรื่อง  เช่นเก่งงานแต่ไม่เก่งคน หรือพูดเก่งแต่ฟังไม่เก่ง  หรือผู้บริหารต่างชาติที่ไม่เข้าใจคนไทยเป็นต้น

> ผู้บริหารที่ต้องการเตรียมตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับระดับที่สูงขึ้นในเวลาที่น้อยลง  คือพวกกลุ่ม Successor  เช่นรองซีอีโอที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการระบุว่าเป็นผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งซีอีโอในอนาคต

> ผู้บริหารหรือซีอีโอบางคนที่ต้องการโค้ชเป็น Sounding Board  คือต้องการที่ปรึกษา  เพราะว่าเขาต้องการบุคคลภายนอกที่สามารถจะมาท้าทายความคิด  ตั้งคำถามยากๆ  หรือเสนอความเห็นแตกต่าง  ซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาภายในองค์กรอาจจะไม่กล้าทำ

เหตุผลที่ผู้บริหารต้องมีโค้ช

‘ผมแนะนำให้คุณมีโค้ช’

ทำไมผู้บริหารจึงต้องมีโค้ช

ที่จริงแล้วคนเก่งๆ ที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากมีโค้ชประจำตัว  ไม่ว่าจะเป็นซีอีโอหรือผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ  อาทิ อีริค  ชมิท  ประธานบริหารของกูเกิ้ล  ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับวารสารธุรกิจฟอร์จูนว่า “คำแนะนำที่ดีที่สุดที่เขาได้รับนั้นคือการมีโค้ชประจำตัว” ในบทสัมภาษณ์ทางวีดีโอ ที่ว่า “ในปีค.ศ. 2001 ผมได้รับคำแนะนำจากบอร์ดคนหนึ่งคือ  จอห์น  โดเออร์ ว่า  ‘ผมแนะนำให้คุณมีโค้ช’  จอห์นแนะนำว่าผมควรมี  บิล  แคมเบล  เป็นโค้ช  แรกๆผมก็ปฏิเสธความคิดนี้  ผมเป็นซีอีโอที่มีประสบการณ์  ผมผิดอะไรหรือถึงต้องมีโค้ช  โค้ชจะช่วยอะไรผมได้หากผมเป็นคนที่เหมาะที่สุดในโลกสำหรับตำแหน่งนี้แล้ว”

แต่ว่านั่นไม่ใช่หน้าที่ของโค้ช  โค้ชไม่จำเป็นต้องเก่งเท่าผู้บริหาร  โค้ชจะเป็นผู้สังเกตการณ์ และหาทางช่วยให้ผู้บริหารไปสู่จุดที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นเท่าที่ผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับการโค้ชจะสามารถไปถึงได้ต่างหาก  ในแง่ธุรกิจแล้วโค้ชไม่ได้เป็นผู้มาสอน  แต่จะเป็นผู้ที่มองจากอีกมุมมองหนึ่ง  ให้ข้อมูลบางประการเพื่อสะท้อนกลับให้ผู้บริหารได้เห็นตนเองในมุมที่ไม่เคยมองเห็น  และหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาหรือเพิ่มประสิทธิภาพ

ชมิท ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เมื่อผมไว้ใจโค้ช  ผมจะรับฟังและพิจารณามุมมองของเขา  แต่ว่าผมเองจะเป็นผู้ตัดสิน ในกรณีที่มีความขัดแย้ง  บิลจะช่วยให้ผมมีมุมมองที่กว้างขึ้น แทนที่ผมจะพุ่งเข้าใส่ปัญหาแบบหัวชนฝา”

4

เครดิตภาพ:
The Hollywood Reporter





คุยกับเดอะโค้ชเกี่ยวกับการพัฒนา
โดยการโค้ชผู้บริหาร

[email protected]

ติดตามเดอะโค้ชทางเฟซบุ๊ค

TheCoach