แบบจำลอง 4I
แบบจำลองการพัฒนา
ผู้บริหารโดยเดอะโค้ช
หน้าแรก > เกี่ยวกับเดอะโค้ช > แบบจำลอง 4I
เดอะโค้ชใช้แบบจำลองที่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งปรับเปลี่ยนตามวิธีการเรียนรู้และยืดหยุ่นต่อการพัฒนาผู้บริหารแต่ละคน
แบบจำลอง 4I
ปรับการพัฒนาตามบุคคล
เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ตรงความต้องการ
ในการพัฒนาผู้บริหาร เดอะโค้ชใช้แบบจำลอง 4I (4I Model) ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้โค้ชและพี่เลี้ยงสามารถวิเคราะห์และประยุกต์ใช้การโค้ชได้เหมาะสมตามสถานการณ์และจริตของแต่ละบุคคล เริ่มต้นด้วย I ตัวแรกคือ Individualization เป็นการที่โค้ชใช้ดุลยพินิจ พิจารณาดูผู้ได้รับการโค้ชเป็นรายบุคคลว่า
เขาควรจะได้รับการโค้ชวิธี ไหนในการโค้ชจากสามวิธีต่อไปนี้
- Instruct การสอน
- Inspire บันดาลใจ
- Inquire ถาม
Individualization
เลือกวิธีพัฒนาผู้บริหารโดยพิจารณาดูเป็นรายบุคคล
Instruct – สอน
ช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้โดยการ
บอก สอน หรือสั่ง
Inspire – บันดาลใจ
ช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้ทางอ้อม
โดยวิธีสร้างแรงบันดาลใจ
Inquire – ถาม
ช่วยให้ผู้อื่นคิดได้ดีมากขึ้น
โดยใช้คำถามเป็นเครื่องมือ
Individualize
เป็นพื้นฐานของการโค้ช การฝึกอบรมและการเรียนเป็นการช่วยคนจำนวนมากให้เรียนไปพร้อมๆกัน ตรงข้ามกับการโค้ชที่ทำเป็นรายบุคคล ดังนั้นเราต้องพิจารณา ในเรื่องสไตล์ ความเชื่อ ศักยภาพ ภูมิหลัง แนวทางการเรียนรู้ที่ถนัด และความตั้งใจในการเรียนรู้ ของแต่ละบุคคล เราไม่ควรโค้ชทุกคนในวิธีเดียวกัน นี่เป็นกับดักที่คนเก่งส่วนมากจะพลาด โดยเฉพาะผู้ที่ทะเยอทะยานและชอบเรียนรู้ เพราะคิดว่าคนอื่นเขารักการเรียนเหมือนตนเอง ดังนั้น ‘Individualize’ จึงเป็นกุญแจความสำเร็จของการโค้ช เมื่อเข้าใจพื้นฐานนี้แล้ว เราก็สามารถเลือกหนึ่งในสามวิธีของอีก 3-Is ที่เหลือ
เราลองมาดูในแต่ละ I กัน
Instruct
‘Instruct’ หรือการสอน เป็นวิธีช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้โดยการบอก สอน หรือสั่ง วิธีนี้ใช้ได้ดีในการสอนกระบวนการทำงาน หรือความรู้เฉพาะทาง เช่น บอกให้ทีมทราบเกี่ยวกับค่านิยมขององค์กร เพราะเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ทราบมาก่อน
Inspire
‘Inspire’ หรือการสร้างแรงบันดาลใจ เป็นวิธีช่วยให้ผู้อื่นเรียนทางอ้อม มีแนวทางที่เราสามารถใช้ได้ คือ
- ทำอย่างที่พูด หรือทำตัวเป็นตัวอย่าง – ทำสิ่งที่พูดและพูดในสิ่งที่ทำ เช่นเราอยากให้ทีมทำงาน โดยใช้ลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง เราอาจต้องลองรับคำร้องทุกข์ของลูกค้าด้วยตนเองบ้าง
- เล่าเรื่อง – มีเรื่องราวมากมายที่ใช้ในการโค้ชได้ เทคนิคคือเราควรจัดประเภทเรื่องที่มี เช่น ทัศนคติเชิงบวก ความเป็นมืออาชีพ การรับมือความยากลำบาก ภาวะผู้นำ หรือการบริหาร
- แชร์ประสบการณ์ส่วนตัว – ถ้าเราได้รับความเชื่อถือจากพวกเขาแล้ว เพราะเขารู้ว่าเราคือใคร เป็นคนอย่างไร ความสำเร็จในอดีตเป็นเช่นไร การแบ่งปันประสบการณ์อาจช่วยได้ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมถามพวกเขาก่อนว่าอยากฟังหรือไม่
การโค้ชโดยสร้างแรงบันดาลใจนั้นไม่เป็นการสั่งการมากไป เราอาจเป็นแบบอย่างที่ดีและแบ่งปันประสบการณ์กับพวกเขา แต่สุดท้ายพวกเขาจะเลือกเองว่าจะนำสิ่งที่เราเล่าไปใช้หรือไม่
Inquire
‘Inquire’ เป็นการโค้ชโดยการถาม เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการโค้ชคนทำงานที่ต้องใช้ความคิดเป็นหลัก เราใช้คำถามเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้อื่นคิดได้ดีมากขึ้น แต่ก็เป็นวิธีที่ยากที่สุดในบรรดา 3Is
การโค้ชทั้งสามแบบ แต่ละแบบก็เหมาะกับแต่ละบุคคลในแต่ละสถานการณ์ ดังนั้นจึงต้องใช้เทคนิค ‘Individualize’ ก่อนลงมือโค้ชเพื่อประเมินดูว่าควรจะเลือกวิธีไหนในสามทางเลือก
อย่างไรก็ตาม Inquire หรือการใช้คำถามในการโค้ชนั้นเป็นสิ่งใหม่สำหรับคนไทย เพราะว่าแนวคิดนี้พัฒนามาจากตะวันตก ซึ่งมีวัฒนธรรมในการเรียนรู้ที่ฝึกให้คนคิดในเชิงวิพากย์ (Critical Thinking) โดยพ่อแม่และครูในสังคมตะวันตกจะใช้คำถามสอบถามเพื่อให้คนแสดงความคิด
การคิดเชิงวิพากย์นั้นมาจากโสกราตีส (Socrates) ซึ่งเป็นคนที่ใช้กระบวนการนี้จนมีคำศัพท์เทคนิคโดยเฉพาะว่า Socratic Method หรือวิธีการของโสกราตีส
ดังนั้นในการใช้การตั้งคำถามให้โค้ชชี่คิดจึงเป็นเรื่องที่โค้ชชี่ชาวไทยส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย โค้ชจึงมีความจำเป็นจะต้องสื่อสารและให้ความรู้ความเข้าใจกับโค้ชชี่อย่างชัดเจนตั้งแต่เบื้องต้นในขั้นตอนของ Checking Chemistry
สำหรับหัวข้อที่สนทนากันในระหว่างโค้ชจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสาร การปฎิสัมพันธ์ระหว่างโค้ชชี่และบุคคลรอบๆตัวเขา การสนทนาจะครอบคลุมไปถึงเรื่องข้อมูลจากพรสวรรค์ของเขา ความถนัดในการสื่อสาร ความเชื่อ เป็นต้น