ปัญหา
ในงานที่ซับซ้อน และต้องใช้ความรู้ในการจัดการ หรือที่เราเรียกว่า Knowledge Workers นั้น ผมมีข้อสังเกตว่า “คนไทยส่วนใหญ่ทำงานเป็นทีมได้แบบพอผ่าน”
น้อยครั้งมาก ที่จะเห็นการทำงานเป็นทีมแบบยอดเยี่ยม
อาจจะมีบางทีมที่เริ่มต้นแบบพอไปได้ หลังจากทำงานเป็นทีมไประยะหนึ่งก็ปรับตัวขึ้นมาเป็นทีมที่ดี
แต่มีน้อยทีมมาก ที่พัฒนาการทำงานเป็นทีมที่ดีไปสู่จุดที่เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม
นิยามของคำว่า “ทีมที่ยอดเยี่ยม” ในความเห็นผม คือ
“ทีมที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มีพันธกิจหลักที่สอดคล้องวิสัยทัศน์ มียุทธศาสตร์ที่ดี
มีค่านิยมร่วมกันที่คนในทีมเคารพและปฎิบัติ
และสามารถทำให้ทุกคนได้มีโอกาสใช้จุดแข็งสร้างผลงานให้ทีม
โดยทีมยอดเยี่ยมจะได้ทั้งผลลัพธ์ที่ดีและความสัมพันธ์ที่ดี”
สาเหตุ
เท่าที่เห็นว่าคนไทยทำงานเป็นทีมได้ไม่ดีเท่าที่ควร น่าจะมาจาก…
1. ประนีประนอม
คนไทยจะประนีประนอมกันมาก จึงมักไม่ Feedback กันตรง ๆ
เมื่อเห็นใครทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่กลับไป นินทากันลับหลังได้
2. เกรงใจ
เรามักจะรักษาน้ำใจ ไม่พูดอะไรตรง ๆ เห็นเพื่อนต้องปรับปรุงการทำงาน
ก็ไม่บอกเพราะเกรงใจ รักษาน้ำใจ โดยปล่อยให้เขาทำผิดไปเรื่อย ๆ
3. อาวุโส
บางคนที่มีอายุมากกว่า หรือตำแหน่งสูงกว่า ก็มักจะคิดว่าความคิดตนเองดีกว่าคนอื่น
แต่ว่าในการทำงานเป็นทีมในยุค Knowledge Worker นั้น แต่ละคนมีความชำนาญแตกต่างกัน
โดยเฉพาะหากเป็นทีมบูรณาการที่มีคนมาจาก Cross-Functional หลายฝ่าย
บางคนใหญ่ในฝ่ายตนแต่มาอยู่ในทีมก็มีสถานภาพเป็นสมาชิกคนหนึ่ง
หากคนที่อาวุโสยึดติดหัวโขนเดิม ทีมงานคนอื่น ๆ ก็ลำบากใจที่จะ Feedback
4. วุฒิภาวะ
หลายคนอายุเยอะแต่วุฒิภาวะไม่เยอะ
เอะอะโวยวาย ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่
คิดเล็กคิดน้อย ทัศนคติลบตลอด
เมื่อมีคนแบบนี้ในทีมหลาย ๆ คน บรรยากาศที่สร้างสรรค์ก็ไม่เกิด
5. ความแตกต่างของระดับ Critical Thinking (CT)
บางคนมี CT ดี บางคนมี CT ไม่ดี
ปัญหาคือคนที่ CT ไม่ดีอาจไม่ตระหนัก
เมื่อมีความคิดเห็นแตกต่างกัน
ตรรกในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจึงไม่เท่ากัน
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอัตตาสูงก็อาจเกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นขึ้นได้
6. บางคนไม่อยากเป็นหัวหน้า เพราะหลีกความขัดแย้ง
หลายคนที่มีคุณสมบัติเหมาะจะเป็นหัวหน้า พอเห็นปัญหาเหล่านี้ก็เลยไม่อยากอาสา
ทำให้ทีมงานทำงานแบบไม่มีทิศทางเท่าที่ควร
เพราะว่าไม่มีใครบางคนมา “เคาะ” หรือตัดสินใจเมื่อทีมเห็นต่างกัน
ทีมงานจึงเสียเวลากับการพยายามทำให้ทุกฝ่าย “พึงพอใจ”
ซึ่งสุดท้ายมักจะจบลงด้วยการทำให้ “ทุกฝ่ายไม่พึงพอใจ” ได้เลย
แนวทางแก้ไข
1. แต่งตั้งคนที่มีภาวะผู้นำในการนำทีมที่ดีขึ้นเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งควรจะมี บารมี วุฒิภาวะ CT และมีทักษะการโน้มน้าวที่ดี
2. หัวหน้าทีม รับวิสัยทัศน์จากคนที่แต่งตั้งมา แปลงเป็นพันธกิจหลัก ยุทธศาสตร์ และค่านิยมหลัก
3. หัวหน้าทีมนำค่านิยมหลักมาหารือกับทีมเพื่อสร้าง Norm หรือบรรทัดฐานในการทำงานเป็นทีมร่วมกัน โดยเฉพาะต้องเน้นค่านิยมที่จะทำให้ปัญหาจากเรื่อง “ประนีประนอม/เกรงใจ/อาวุโส/วุฒิภาวะ/ระดับ CT ต่างกัน” มีน้อยลงเท่าที่จะทำได้
4. บริหารทีมด้วยแนวทางการบริหารโครงการ โดยการวางแผนงานโครงการ วางแผนจัดสรรคนให้เหมาะกับงาน วางแผนทรัพยากร และวางแผนปฎิบัติงานที่ชัดเจนพอสมควร
5. ลงมือทำตามแผนงาน โดยมีการสื่อสารติดตามผลเป็นระยะ
6. เมื่อมีใครทำได้ดีตามแผนงาน สื่อสารชมเชย
7. เมื่อมีใครทำไม่ได้ตามแผนงาน เข้าไปคุยกับเขา หาสาเหตุ และร่วมกันแก้ปัญหา