“คุณเกรียงศักดิ์ ผมนำเทคนิคการโค้ชโดยใช้คำถามไปใช้แล้วได้ผลจริง ๆ”
“เล่าให้ฟังหน่อยครับ คุณวิสิทธิ์”
“สองปีก่อนซีอีโอบริษัทแม่ที่สหรัฐริเริ่มการสื่อสารภายในโดยแจ้งความเคลื่อนใหวมาสัปดาห์ละครั้ง สำหรับที่เมืองไทย ผมเป็นคนแปลข่าวมาแต่ต้น โดยใช้เวลาแปลครั้งละหนึ่งชั่วโมง หลัง ๆ มาผมมอบหมายให้เลขาเป็นคนทำ”
“คุณโค้ชเธออย่างไร”
“ผมใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อโค้ชเทคนิคการแปล เธอเข้าใจโดยมากแต่ไม่ทั้งหมด”
“คุณทราบได้อย่างไร”
“เพราะว่าหลังเธอแปลผมใช้เวลาในการตรวจทานงานของเธออีก 30 นาที จากที่เคยใช้หนึ่งชั่วโมงในการแปลเอง”
“ก็ดีสิครับ”
“ก็จริงอยู่ครับ แต่หลังจากคุณสอนผมเรื่องการโค้ชโดยการใช้คำถามสองสัปดาห์ก่อน ผมจึงนำมาทดลองใช้กับเธอ”
“ขยายความหน่อยครับ” ผมดีใจเมื่อทราบว่าเขาสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปปรับใช้จริง
“ผมเรียกเธอมาคุยในออฟฟิศว่า ‘เล็ก ผมขอบคุณที่คุณช่วยแปลงาน เพราะมันลดเวลาที่ผมเคยใช้ลงถึงครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ดี ผมอยากให้คุณช่วยผมเพิ่มอีกสักหน่อย
ที่ผ่านมา หลังคุณส่งงานแปลให้ผมแล้ว ผมยังต้องใช้อีก 30 นาทีในการปรับแต่งโทนของเนื้อหา ก็เลยคิดว่าถ้าคุณสามารถเรียนรู้สไตล์ของผม คุณจะสามารถช่วยประหยัดเวลาผมได้อีก’
เธอยิ้ม แสดงให้เห็นความกระตือรือร้นว่าอยากช่วย เธอถามกลับว่า ‘คุณวิสิทธิ์ อยากแนะนำอะไรเล็กคะ’
‘ผมเพิ่งเรียนเทคนิคการโค้ชโดยการใช้คำถามจากโค้ชเกรียงศักดิ์ โดยมีแนวคิดง่าย ๆ คือ ถ้าต้องการเพิ่มระดับความสามารถของทีม ผมก็ต้องพัฒนาวิธีคิดของพวกเขาให้คิดเก่งชึ้น โดยการใช้คำถามช่วยอำนวยความคิด ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนเก่งมีศักยภาพ คุณจะว่าอะไรมั๊ยถ้าผมจะขอใช้วิธีการโค้ชคุณโดยการใช้คำถาม’
เธอพยักหน้า ผมรู้ว่าเธอเชื่อใจผม และเธอเองก็ภูมิใจที่ผมขอความเห็นเธอเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพการทำงาน
ผมพูดต่อ ‘เล็กคิดว่าสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อพัฒนาการแปลของเล็ก’
เธอหยุดคิดสักครู่ ‘คุณวิสิทธิ์ คิดว่าความถูกต้องแม่นยำในการแปลของเล็กเป็นอย่างไรคะ’
‘คุณแปลได้ถูกต้องดีแล้ว สิ่งที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้คือสไตล์และโทนของเนื้อหาให้มีความคล้ายคลึงกับผมมากขึ้น คุณคิดว่าน่าจะใช้วิธีใหนได้บ้าง’
เธอใช้เวลาเล็กน้อยสะท้อนความคิดให้ลึก กรอกตาไปมา ในที่สุดเธอก็เข้าถึง ช่วงเวลาอะฮ้า ‘เล็กจะนำเอกสารชุดที่เล็กแปล และชุดที่คุณวิสิทธิ์ปรับแก้แล้วมาเทียบกัน จะได้ทราบว่ามีส่วนไหนที่แตกต่างกัน’
‘เป็นความคิดที่ดีมาก คุณคิดว่าจะทำย้อนหลังสักกี่สัปดาห์ดี’
‘ห้าสัปดาห์น่าจะเหมาะสมนะคะ เล็กจะทำบ่ายนี้เลยค่ะ’
เธอใช้เวลาสองชั่วโมงในการเรียนรู้ แล้วในวันถัดมาผมก็ส่งงานแปลชิ้นใหม่ให้เธออีก”
“หลังจากที่เธอเรียนรู้ด้วยตนเองแล้วมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างครับ”
“เยี่ยมมากเลยครับ ผมใช้เวลาเพียงห้านาทีในการตรวจทานงานแปลชิ้นนี้ ผมประหยัดอีก 25 นาทีต่อสัปดาห์”
“เยี่ยมจริง ๆ ครับ รวมแล้วคุณประหยัดเวลาได้เท่าใหร่ในหนึ่งปี”
“ประมาณ 1,300 นาที หรือ 21.6 ชั่วโมง” เขาทำหน้าประหลาดใจมาก
เขาอุทานออกมา “ว๊าว ผมใช้เวลาโค้ชเธอเพียง 15 นาที แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนในโค้ชชิ่ง คือ 1,300 นาที เทียบเป็น 87 เท่า”
ตอนนี้คุณวิสิทธิ์เข้าถึงช่วงเวลายูเรก้า ทำให้เขาคิดเจาะลึกลงไปอีก
“คุณคิดอะไรอยู่ครับ” ผมถาม
“ผมน่าจะสามารถนำวิธีนี้ไปใช้ได้อีกกับสมาชิกทีมคนอื่น ๆ”
“คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่ากรณีของคนอื่น ๆ จะประสบผลสำเร็จเหมือนอย่างคุณเล็กครับ”
“ผมจะเล่าเรื่องคุณเล็กให้พวกเขาฟัง”
“ทีมมีความเชื่อใจคุณมากแค่ไหนครับ”
“เป็นคำถามที่ดีครับ เพราะในกรณีคุณเล็ก เธอเชื่อใจผมสูงมาก แต่สมาชิกอื่นในทีมอาจไม่เป็นอย่างเธอ”
“แล้วคุณจะทำอย่างไรดีครับ”
“ผมจะลองใช้วิธีนี้กับคนที่มีความพร้อมก่อน ในขณะเดียวกันก็จะพยายามสร้างความใว้เนื้อเชื่อใจกับคนอื่น ๆ ที่ยังไม่พร้อมครับ”