1. Knowledge Workers คืออะไร
2. คุณสมบัติที่ดีของ Knowledge Workers คืออะไร
3. เราจะพัฒนาคุณสมบัติที่ดีแต่ละข้ออย่างไร
4. ตัวอย่างบุคคลสาธารณะที่เป็น Knowledge Workers มีใครบ้าง
5. ประสบการณ์อะไรที่ช่วยให้ Knowledge Workers พัฒนาตนให้เก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
6. บางองค์กรมี Mentoring / จ้าง Executive Coach จากภายนอก ควรเตรียมตัวอย่างไร
1. Knowledge Workers คืออะไรใครเป็นคนบัญญัติคำนี้ขึ้นมา
Knowledge Workers ถูกบัญญัติขึ้นโดย Peter Drucker ในปี 1959 ในหนังสือที่ชื่อ “Landmarks of Tomorrow”. คนกลุ่มนี้ทำงานในด้านที่ต้องใช้ความรู้และข้อมูลเป็นหลัก เช่น การวิจัย การวิเคราะห์ การตัดสินใจ, และการสื่อสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจำลองหรือแทนที่ได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องจักรหรือระบบอัตโนมัติ
2. คุณสมบัติที่ดีของ Knowledge Workers คืออะไร
1. ทักษะการวิเคราะห์: สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ได้อย่างละเอียด
2. ทักษะการสื่อสาร: สามารถสื่อสารได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
3. การเรียนรู้ตลอดชีวิต: มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และปรับตัว
4. ความสร้างสรรค์และนวัตกรรม: สามารถคิดอย่างเป็นสร้างสรรค์และนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ
5. ทักษะการจัดการเวลา: สามารถจัดการเวลาและงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ความรู้ในเชิงเฉพาะทาง: มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านที่ทำงาน
3. เราจะพัฒนาคุณสมบัติที่ดีแต่ละข้ออย่างไร
1. ทักษะการวิเคราะห์: ฝึกการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์กรณีศึกษา และเรียนรู้เทคนิคในการวิเคราะห์
2. ทักษะการสื่อสาร: การฝึกพูดและเขียน การเข้าร่วมคอร์สในการสื่อสาร
3. การเรียนรู้ตลอดชีวิต: อ่านหนังสือ ฟังพ็อดคาสต์ หรือเข้าร่วมเวบินาร์
4. ความสร้างสรรค์และนวัตกรรม: ฝึกการคิดอย่างเป็นสร้างสรรค์ผ่านการทำงานกลุ่มหรือโปรเจ็ค
5. ทักษะการจัดการเวลา: ใช้เครื่องมือและเทคนิคในการจัดการเวลา
6. ความรู้ในเชิงเฉพาะทาง: การศึกษาต่อและการเข้าร่วมอบรมเฉพาะทาง
4. ตัวอย่างบุคคลสาธารณะที่เป็น Knowledge Workers มีใครบ้าง
– ซัทยา นาดีลา (Satya Nadella) – CEO ของ Microsoft
– บรีน บราวน์ (Brené Brown) – นักวิจัยในด้านจิตวิทยา
– ยูวาล นัว ฮารารี (Yuval Noah Harari) – นักประวัติศาสตร์และนักเขียน (Sapiens: A Brief History of Humankind)
5. ประสบการณ์อะไรที่ช่วยให้ Knowledge Workers พัฒนาตนให้เก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
การพัฒนาตนเองให้เป็น Knowledge Worker ที่เก่งขึ้นอาจจะต้องการประสบการณ์ที่หลากหลาย:
1. การทำงานในโปรเจ็คที่มีความท้าทาย: การเผชิญกับปัญหาและความท้าทายในงานจะสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความสามารถในการตัดสินใจ
2. การเป็นหัวหน้าทีมหรือผู้จัดการโครงการ: คุณจะได้เรียนรู้เรื่องการจัดการทรัพยากร การสื่อสาร และการสร้างความสัมพันธ์ในทีม
3. การเข้าร่วมอบรมและเวบินาร์: การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจะเพิ่มทักษะและความรู้ในเชิงเฉพาะทาง
4. การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการข้ามสายงาน (Cross Functional Team): การทำงานร่วมกับผู้คนจากฟังก์ชันหรือแผนกต่างๆ จะเพิ่มทักษะในการสื่อสารและความเข้าใจในการทำงานข้ามฟังก์ชัน
5. การเขียนบล็อกหรือเผยแพร่บทความ: นอกจากจะเป็นการสร้างแบรนด์ส่วนตัว ยังเป็นการฝึกทักษะการสื่อสารและการสร้างความรู้
6. การเป็นโค้ชหรือที่ปรึกษา: การสอนหรือให้คำปรึกษาให้ผู้อื่นจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาและความต้องการของผู้คนในอุตสาหกรรมของคุณ และยังเพิ่มทักษะในการสื่อสารและการจัดการ
7. การเข้าร่วมเครือข่ายอาชีพ: การสร้างความสัมพันธ์และการเรียนรู้จากผู้คนในอุตสาหกรรมของคุณ
8. การทำงานในสถานประกอบการหรือสตาร์ทอัพ: คุณจะได้เรียนรู้การทำงานในสภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการต้องตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ
9. การเข้าร่วมในงานจิตอาสา: การทำงานเป็นอาสาสมัครในโครงการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญของคุณสามารถเพิ่มทักษะและความรู้ในด้านที่คุณสนใจ
6. บางองค์กรมีระบบ Mentoring หรือมีการจ้าง Executive Coach จากภายนอกให้มาพัฒนา
Knowledge Workers ควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
การใช้ระบบ Mentoring หรือการจ้าง Executive Coach สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนา Knowledge Workers ได้
ก่อนเริ่มโค้ชหรือการให้คำปรึกษา
1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: คิดถึงสิ่งที่คุณต้องการพัฒนา หรือปัญหาที่คุณต้องการแก้ไข
2. ทำการวิจัย: หาข้อมูลเกี่ยวกับ Mentor หรือ Coach ที่คุณจะได้รับคำปรึกษา เพื่อให้คุณเข้าใจถึงสไตล์และวิธีการที่พวกเขาใช้
3. เตรียมคำถามและประเด็นที่ต้องการหารือ: นำเสนอปัญหาหรือเรื่องที่คุณต้องการคำปรึกษาให้ชัดเจน
ระหว่างการโค้ชหรือการให้คำปรึกษา
1. เปิดใจรับฟีดแบ็ค: ฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจาก Mentor หรือ Coach อย่างจริงจัง
2. เป็นผู้ริเริ่ม: อย่ารอให้ Mentor หรือ Coach ถามคำถาม แต่คุณควรเป็นผู้ริเริ่มสนทนาและยืนยันเป้าหมายของคุณ
3. บันทึกข้อมูล: จดบันทึกหรือทำหมายเหตุเกี่ยวกับสิ่งที่ได้รับรู้ หรือข้อเสนอแนะที่ได้รับ
หลังจากการโค้ชหรือการให้คำปรึกษา
1. ทบทวนและประเมิน: ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ และวางแผนการดำเนินการตามที่ได้รับคำปรึกษา
2. ปฏิบัติตามแผน: ใช้คำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะในการปรับปรุงหรือพัฒนาตนเอง
3. ให้ฟีดแบ็คแก่ Mentor หรือ Coach: แจ้งให้พวกเขารู้ถึงความคืบหน้าหรือผลลัพธ์ที่คุณได้รับ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงวิธีการโค้ชหรือให้คำปรึกษาในอนาคต
การเตรียมตัวและมีส่วนร่วมอย่างใจจริงในกระบวนการนี้จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการมี Mentor หรือ Coach และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในฐานะ Knowledge Worker