Influencing Skills คือการโน้มน้าวด้วยเหตุและผล ทำให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุผลลัพธ์ ซึ่งทั้งคู่ยอมรับได้ในผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายจะได้รับ ด้วยความเต็มใจ
ต่างกับสิ่งเหล่านี้…
Persuasion คือการชักจูง โดยมุ่งเสนอผลประโยชน์ระยะสั้น และอาจไม่บอกถึงผลข้างเคียงทั้งหมด
Manipulation คือการจัดฉาก/หว่านล้อม ขุดบ่อล่อปลา โดยมีเจตนาที่จะได้ประโยชน์มากกว่าอีกฝ่าย
Domination คือการสั่งการ/การใช้อำนาจ/การใช้อิทธิพลสั่งให้อีกฝ่ายยอมแม้เขาไม่เต็มใจ
Influencing Skills เป็นทักษะสำคัญสำหรับผู้นำ
เพราะว่า ผู้นำจะต้องใช้ศิลปะในการสื่อสารที่ทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเห็นพ้องด้วยอย่างโปร่งใส และเต็มใจจะไปในที่ที่เขายังไม่เคยไปและไม่คุ้นเคย แต่เขาไปเพราะเขาไว้วางใจในผู้นำ
สมมติว่า C-Level คนหนึ่ง เป็น Candidate CEO ในบริษัทหนึ่ง ในอีกสองปีข้างหน้า
แต่ว่าเขายังนำ Influencing ได้ไม่คล่องแคล่ว อยู่ในระดับ พอใช้ได้
ขณะที่ใน IDP ระบุว่า Priorioty สำคัญของเขาคือ “การพัฒนาเรื่องนี้ภายในสองปีให้ดี”
เราจึงนำเรื่องนี้มาวางแผนพัฒนา โดยการใช้คำถาม ถามไปที่ 70-20-10 Rule แต่ละข้อ
เพื่อให้ได้คำตอบออกมาเป็นกิจกรรมที่เราจะลงมือไปพัฒนา ตัวอย่างเช่น…
คำถาม 10% “คุณคิดว่าต้องเข้าอบรมวิชาอะไร” / อ่านหนังสืออะไร
– ไม่มีการอบรม
– อ่านหนังสือ Influence without authority วันละ 20 นาที / 3 วันต่อสัปดาห์ 10 สัปดาห์ = 20x3x10 =10 ชม.
คำถาม 20% “คุณคิดว่า ใครที่พอจะเป็นพี่เลี้ยง/โค้ช ในเรื่องนี้ให้เราได้บ้าง”
– จ้างโค้ชมาโค้ชตัวต่อตัว เดือนละ 3 ชม. 12 เดือน
คำถาม 70% “คุณคิดว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในทักษะนี้ให้เก่งขึ้น”
ตัวอย่างคำตอบของกิจกรรม เช่น
1. อาสานำโครงการมีแต่คนเก่งมากกว่าเรา ประชุม 2 ชม./สัปดาห์ 52 สัปดาห์ = 104 ชม.
2. อาสาอยู่ในทีมต่อรอง Suppliers ที่ต่อรองเก่งมาก เดือนละ 1 ครั้ง ๆ ละ 2 ชม. = 24 ชม.
3. อาสาประสานงานหน่วยงานรัฐเรื่องการขอใบอนุญาต เดือนละ 1 ครั้ง ๆ ละ 2 ชม. = 24 ชม.
4. อาสาทำงานในทีมเปลี่ยนแปลงระบบที่มีคนต่อต้านสูง ประชุมเดือนละ 1 ครั้ง ๆ ละ 2 ชม. = 24 ชม.
5. หาทุนกิจกรรม CSR ที่ต้องไประดมทุนจากคนภายนอก
ถ้าเรานำจำนวนชั่วโมงในแต่ละรูปแบบมารวมกัน = 222 ชม.
อ่านหนังสือ 10 ชม. = 5%
โค้ช 36 ชม. = 16%
ประสบการณ์/ลงมือทำจริง 176 ชม. = 79%
แล้วนำกิจกรรมทั้งหลายมาจัดทำเป็นแผนงานใน 12 เดือนข้างหน้าครับ