ผู้บริหารมองหาคนที่มีคุณสมบัติอะไร

เรามาหาคำตอบกัน โดยเจาะลึกในสามคำถามย่อยต่อไปนี้

1. ผู้บริหารมองหาคนที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง 

2. แต่ละข้อมีรายละเอียดอย่างไร 

3. มีวิธีพัฒนาแต่ละข้ออย่างไรบ้าง  

1. ผู้บริหารมองหาคนที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง 

ผู้บริหารมองหาคนที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1. ความเชี่ยวชาญ (Expertise) มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) สามารถคิดนอกกรอบ แก้ปัญหาใหม่ ๆ และสร้างนวัตกรรม

3. การทำงานเป็นทีม (Teamwork) สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. การสื่อสาร (Communication) สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งการพูด การเขียน และการนำเสนอ

5. ความเป็นผู้นำ (Leadership) สามารถเป็นผู้นำผู้อื่นได้

6. ความมุ่งมั่น (Dedication) มีความมุ่งมั่นในการทำงานและบรรลุเป้าหมาย

2. แต่ละข้อมีรายละเอียดอย่างไร 

ความเชี่ยวชาญ (Expertise) หมายถึง ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความรู้อาจมาจากการศึกษา ประสบการณ์ หรือการฝึกอบรม ทักษะอาจรวมถึงทักษะทางเทคนิค ทักษะทางความคิด ทักษะทางสังคม และทักษะทางอารมณ์

ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) หมายถึง ความสามารถในการคิดนอกกรอบ แก้ปัญหาใหม่ ๆ และสร้างนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์อาจมาจากการมีจินตนาการ ความสามารถในการมองเห็นโอกาสใหม่ๆ และความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์

การทำงานเป็นทีม (Teamwork) หมายถึง ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานเป็นทีมอาจหมายถึงการสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างราบรื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

การสื่อสาร (Communication) หมายถึง ความสามารถในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งการพูด การเขียน และการนำเสนอ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพอาจหมายถึงการสื่อสารที่ชัดเจน กระชับ เข้าใจง่าย และตรงประเด็น

ความเป็นผู้นำ (Leadership) หมายถึง ความสามารถในการเป็นผู้นำผู้อื่น ความเป็นผู้นำอาจหมายถึงความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้ผู้อื่นทำงาน และช่วยให้ผู้อื่นบรรลุเป้าหมาย

ความมุ่งมั่น (Dedication) หมายถึง ความมุ่งมั่นในการทำงานและบรรลุเป้าหมาย ความมุ่งมั่นอาจหมายถึงความตั้งใจ ความพยายาม และการทำงานหนัก

3. มีวิธีพัฒนาแต่ละข้ออย่างไร 

ความเชี่ยวชาญ (Expertise)

– ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมทั้งจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น หนังสือ บทความ เว็บไซต์ หรือการเข้าอบรม

– ฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในการทำงาน

– ทำงานจริงและรับคำติชมจากผู้อื่น

ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

– ฝึกฝนการคิดนอกกรอบ เช่น การลองใช้วิธีใหม่ ๆ การลองมองปัญหาจากมุมมองที่แตกต่างออกไป

– หาแรงบันดาลใจจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เช่น ศิลปะ ดนตรี ธรรมชาติ หรือวัฒนธรรม

– เข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

การทำงานเป็นทีม (Teamwork)

– เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ในการทำงานเป็นทีม

– ฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน

– มีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโครงการที่เน้นการทำงานเป็นทีม

การสื่อสาร (Communication)

– ฝึกฝนทักษะการพูด การเขียน และการนำเสนอ

– ฝึกฝนการฟังอย่างตั้งใจ

– หาโอกาสฝึกฝนการสื่อสารกับผู้อื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ

ความเป็นผู้นำ (Leadership)

– เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการและแนวคิดการเป็นผู้นำ

– ฝึกฝนทักษะการเป็นผู้นำ เช่น การสื่อสาร การตัดสินใจ การจูงใจผู้อื่น

– หาโอกาสฝึกฝนการเป็นผู้นำในสถานการณ์ต่าง ๆ

ความมุ่งมั่น (Dedication)

– ตั้งเป้าหมายในการทำงานและกำหนดแผนงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย

– มุ่งมั่นในการทำงานและไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค

– หาแรงบันดาลใจจากผู้อื่นที่ประสบความสำเร็จ

การพัฒนาคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ Knowledge Workers สามารถเติบโตและก้าวหน้าในอาชีพการงานได้

อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า “โชค” หรือการอยู่ถูกที่ ถูกเวลา เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน

โชค ทำให้หลายคนมีโอกาสเข้าตากรรมการได้มากกว่าคนอื่น

ดังนั้นเราจึงควรขยันทำตัวให้เกิด Visibility หรือการสร้างโอกาสให้คนเห็นผลงานบ่อย ๆ 

อย่างที่มีคนเคยบอกว่า “โชคเข้าข้างคนขยัน” ครับ