ผู้จัดการพัฒนาคนอย่างไรในแต่ละ Employee Experience

a. ผู้จัดการควรใช้เวลาในการพัฒนาคนเท่าไร

b. Employee Experience ตั้งแต่ต้นจนจบเป็นอย่างไร

c. ตัวอย่าง 5 บริษัทชั้นนำที่ทำได้ดีในเรื่องนี้

d. แนวทางอื่นที่เป็นรูปธรรมในแต่ละ Employee Experience

e. ตัวอย่างงานโครงการที่ทำให้คนพัฒนาเร็ว

a. ผู้จัดการควรใช้เวลาในการพัฒนาคนเท่าไร

ในบริษัทชั้นนำ HPO มักจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน บริษัทเหล่านี้มักจะแนะนำให้ผู้จัดการของตนใช้เวลา 20-30% ในการ สอนงาน โค้ชชิ่ง พัฒนาทีมงาน 

b. Employee Experience ตั้งแต่ต้นจนจบเป็นอย่างไร

Employee Experience ที่เป็นโอกาสในการพัฒนาคน

1. เรียนรู้เกี่ยวกับองค์กร วัฒนธรรมองค์กร

2. เรียนรู้เกี่ยวกับงาน

3. On the job training (OJT) 

4. ลงมือทำงาน

5. Feedback

6. Delegation

7. Feedback 

8. พ้นทดลองงาน

9. Empower 

10. Feedback

11. ประเมินผลงานปลายปี

12. ยกระดับความยากของงาน

13. Feedback

14. เตรียมตัวให้เติบโตด้วย IDP

15. ลาออกจากงาน 

c. ตัวอย่าง 5 บริษัทชั้นนำที่ทำได้ดีในเรื่องนี้

Google: มีโปรแกรม “Googler-to-Googler” ที่ให้พนักงานสอนกันเอง และมีการให้ Feedback อย่างต่อเนื่อง

Salesforce: มี Trailhead สำหรับการเรียนรู้และพัฒนาทักษะ และมีการให้ Feedback ผ่านระบบ V2MOM (Vision, Values, Methods, Obstacles, Measures)

Netflix: มีวัฒนธรรม “Freedom & Responsibility” ที่เน้นการมอบหมายงานและให้ Feedback อย่างชัดเจน

Adobe: ยกเลิกการประเมินผลปลายปี และแทนที่ด้วย “Check-In” ที่เป็นการสนทนาและให้ Feedback อย่างต่อเนื่อง

Unilever: ใช้แอปพลิเคชันในการติดตามและให้ Feedback แบบ Real-time และมีโปรแกรมการพัฒนาผ่าน “Unilever Future Leaders Programme”

d. แนวทางจากที่อื่นที่เป็นรูปธรรมในแต่ละ Employee Experience

ในแต่ละ Employee Experience ขอยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม จากหลายองค์กร ดังนี้ครับ:

1. เรียนรู้เกี่ยวกับองค์กร วัฒนธรรมองค์กร

Orientation Day: จัดงานรู้จักองค์กรในวันแรกของพนักงาน

Culture Book: สร้างหนังสือที่อธิบายวัฒนธรรมและค่านิยมของบริษัท

Mentorship Program: มอบ Mentor ให้กับพนักงานใหม่เพื่อแนะนำวัฒนธรรม

2. เรียนรู้เกี่ยวกับงาน

Skill Mapping: ใช้แผนที่ทักษะเพื่อแสดงทักษะที่ต้องการในงาน

Interactive Modules: ใช้โมดูลการเรียนรู้แบบโต้ตอบ

Job Aids: ให้เครื่องมือหรือแนวทางการทำงานเป็นเอกสาร

3. On the Job Training (OJT)

Job Rotation: ให้พนักงานลองทำงานในหน่วยงานหลายๆ แผนก

Job Shadowing: ให้พนักงานติดตามงานของผู้มีประสบการณ์

Project Assignments: มอบโปรเจคเล็กๆ ให้พนักงานใหม่

4. ลงมือทำงาน

KPI Tracking: ใช้แดชบอร์ดในการติดตาม KPIs

Daily Stand-ups: ประชุมยืนสั้นๆ ในแต่ละวัน

Collaboration Tools: ใช้ Slack หรือ Teams ในการสื่อสาร

5. Feedback

Weekly One-on-Ones: มีการสนทนาส่วนตัวระหว่างผู้จัดการและพนักงาน

360-Degree Feedback: รับข้อเสนอแนะจากทั้งหัวหน้าและลูกน้อง

Pulse Surveys: ใช้แบบสอบถามสั้นๆ ในการรับ Feedback อย่างต่อเนื่อง

6. Delegation

มอบหมายงานจากง่ายไปยาก

มอบหมายงานโครงการที่เกี่ยวข้องกับงาน

มอบหมายงานโครงการที่ท้าทายมากและไม่เกี่ยวกับงานตรง

e. ตัวอย่างงานโครงการที่ทำให้คนพัฒนาเร็ว

1. เป็นคณะทำงานแก้ปัญหาใหญ่

2. ช่วยประสานงานลูกค้ารายสำคัญ

3. เจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้

4. เข้าไปช่วยลูกหนี้ฟื้นฟูกิจการ

5. เป็นคณะทำงานสื่อสารช่วงวิกฤติ

6. เป็นคณะทำงานปรับโครงสร้างองค์กร

บทความนี้นี้น่าจะเป็นสารตั้งต้นให้พวกเราไปคิดประยุกต์ใช้ในงานได้บ้างครับ