A. หัวหน้าที่เก่งในการบริหารคนมีวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้คนมีแรงจูงใจทำงานได้อย่างไรบ้าง
การเป็นหัวหน้าที่ดีไม่ได้เพียงแต่เก่งทางด้านเชิงเทคนิคในงานเท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะการบริหารคนและการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงานของตนเอง ด้านล่างนี้คือวิธีการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา:
1. การแสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน: บอกทีมงานอย่างชัดเจนว่า คุณจะพาพวกเขาไปที่ไหน ไปด้วยยุทธศาสตร์อะไร และจะอยู่ร่วมกันด้วยค่านิยมหลักอะไรบ้าง
2. การยอมรับและการฟัง: ฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจากทีมงาน แสดงให้เห็นว่าคุณเคารพและให้ความสำคัญกับทุกคนในทีม
3. การให้ข้อมูลและข่าวสารอย่างต่อเนื่อง: ให้พนักงานทราบถึงความคืบหน้า และสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร
4. การให้ข้อมูลย้อนกลับ: แจ้งให้ทีมงานทราบถึงประสิทธิภาพของงาน และให้คำแนะนำในสิ่งที่สามารถพัฒนาได้
5. การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี: มีการสื่อสารที่เปิดเผยและสร้างความไว้วางใจระหว่างทีมงาน
6. การตอบแทนและรางวัล: ให้การตอบแทนที่เหมาะสมแก่ความสำเร็จและผลิตภาพของพนักงาน
7. คุยเรื่องความคืบหน้าของแต่ละคน: อย่างน้อย ทุกหกเดือน มีการพูดถึงว่าอนาคตของแต่ละคนควรมีเส้นทางอย่างไร งานในปัจจุบันมีนัยสำคัญต่ออนาคตอย่างไร และหัวหน้าจะสนับสนุนเขาได้อย่างไร
8. การส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนา: สนับสนุนและกระตุ้นให้พนักงานได้ฝึกอบรมและเรียนรู้ต่อเนื่อง
9. การเป็นตัวอย่าง: ทำให้เห็นและแสดงออกมาในรูปแบบของพฤติกรรมที่ต้องการจากทีมงานของคุณ
10. การสร้างความสัมพันธ์แบบบุคคล: ให้เวลาสำหรับพนักงานแต่ละคน และสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย
11. การยืนยันความสำเร็จ: ยกย่องและขอบคุณพนักงานเมื่อพวกเขาทำงานได้ดี
รวมถึงมีการตั้งคำถาม, ฟัง, และการส่งเสริมความสัมพันธ์ในทีม เพื่อให้ทีมงานรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสำเร็จขององค์กร.
B. เราจะพัฒนาวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้เก่งขึ้นได้อย่างไรมีประสบการณ์อะไรบ้างที่สามารถพัฒนาความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ
การพัฒนาวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นต้องมาจากทั้งความเข้าใจในมนุษย์สัมพันธ์, การฟัง, และการสังเกตการณ์ ที่ทำให้คุณเข้าใจถึงความต้องการและความรู้สึกของผู้คนรอบข้าง ด้านล่างนี้คือข้อแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ:
1. การเรียนรู้เกี่ยวกับมนุษย์สัมพันธ์: การอ่านหนังสือหรือการสมัครเข้าร่วมการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการสื่อสารและการบริหารคนจะมีประโยชน์มาก
2. เข้าใจแรงจูงใจและจริตของแต่ละคน: คุยกับเขาในเบื้องต้นว่า เขามีเป้าหมายอย่างไรในชีวิต งานที่เขาทำมันสอดคล้องเป้าหมายอย่างไร และวิธีสื่อสารที่ถูกจริตเขาเมื่อเขาทำได้ดีควรเป็นอย่างไร และหากเขาทำพลาดวิธีสื่อสารแบบไหนที่ถูกจริตทำให้เขาปรับปรุงตัวได้ดีขึ้น
3. การสังเกตการณ์และการฟัง: ให้ความสำคัญกับการฟังความคิดเห็นและความรู้สึกของผู้คนรอบข้าง เพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการและต้องการ
4. เรียนรู้จากหัวหน้าโดยตรง พี่เลี้ยง หรือโค้ช: หาคนที่คุณเชื่อถือและขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการสร้างแรงบันดาลใจ
5. ลงมือทำแล้วสังเหตผล: ลองใช้วิธีต่าง ๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจแล้วสังเกตดูว่าวิธีไหนเป็นผลดีที่สุด
6. การประเมินผล: หลังจากลองใช้วิธีต่าง ๆ แล้ว ทำการประเมินผลว่าผู้คนรอบข้างมีการตอบสนองอย่างไร เพื่อปรับปรุงในอนาคต
7. การเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการทำงานเป็นทีม: การเข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องทำงานเป็นทีม เช่น กิจกรรมกลุ่ม, โครงการอาสาสมัคร, หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะการทำงานร่วมกัน จะทำให้คุณได้ฝึกฝนทักษะการสร้างแรงบันดาลใจ
8. การรับฟังและรับรู้ต่อความคิดเห็น: ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นจากผู้อื่นและปรับปรุงตัวเองตามคำแนะนำ
เมื่อคุณฝึกฝนและทดลองวิธีต่าง ๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจแล้ว คุณจะพบว่าความสามารถนี้เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้ และมันจะสร้างความสำเร็จและความสุขที่ยั่งยืนในการทำงานร่วมกันกับผู้คนรอบข้าง.
C. คนที่สร้างแรงบันดาลใจเก่งๆเช่นบารัคโอบามาสตีฟจ็อปส์บิลล์เกตต์อีลอนมัสก์เขามีประสบการณ์อะไรในชีวิตที่ทำให้เขาเก่งเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจ
ผู้คนที่สร้างแรงบันดาลใจเก่ง ๆ เช่น บารัค โอบามา สตีฟ จ็อปส์ บิลล์ เกตต์ และ อีลอน มัสก์ มีประวัติชีวิตและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกัน แต่พวกเขามีคุณสมบัติทางการนำทีมและความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่น ด้านล่างนี้เป็นสรุปข้อควรจำจากประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน:
1. บารัค โอบามา: การมีประวัติชีวิตที่หลากหลายและการเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งประสบการณ์ที่วัดระดับชีวิตจากการทำงานเป็นนักกฎหมายสังคมสงเสริมทำให้เขามีความสามารถในการสื่อสารได้อย่างแท้จริงกับคนหลายประเภท
2. สตีฟ จ็อปส์: การแนวคิดที่ภาคภูมิใจในสิ่งที่เรียกว่า “การคิดข้ามกรอบ” การไล่ตามความเชื่อที่มีต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และการเชื่อว่างานควรทำให้ดีที่สุด
3. บิลล์ เกตต์: การมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงโลก พร้อมทั้งความเชื่อในการให้และการกลับมาช่วยสังคมผ่านมูลนิธิของเขา
4. อีลอน มัสก์: มุมมองที่อยากจะทำให้มนุษยชาติเป็นที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นผ่านการส่งมนุษย์ไปยังดาวอื่น การพัฒนาพลังงานทดแทน หรือการสร้างระบบการขนส่งอนาคต
การที่เหล่าผู้นำนี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ แต่เกิดจากการผสมผสานความรู้สึก ความเชื่อ ประสบการณ์ และความมุ่งมั่นที่มีต่อวิสัยทัศน์ของพวกเขา การที่พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างแรงบันดาลใจเกิดขึ้นจากการที่เขาใช้ชีวิตและประสบการณ์ของตนเองเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง
D. คนที่เก่งในการสร้างแรงบันดาลใจโดยทั่วไปเขาพัฒนาความสามารถนี้ขึ้นมาได้อย่างไร
คนที่เก่งในการสร้างแรงบันดาลใจมีรูปแบบและวิธีการที่หลากหลายในการพัฒนาความสามารถนี้ แต่มักจะมีหลักการพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้:
1. มีความพยายามที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น: คนที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้เก่ง มักจะเป็นคนที่เข้าใจและรู้สึกยินดีต่อความรู้สึกและความต้องการของผู้คนรอบข้าง
2. การฟัง: การฟังที่ดีและเอาใจใส่จะทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าพวกเขาถูกเคารพและเข้าใจ
3. การมีวิสัยทัศน*: การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและการสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์นั้นให้ผู้อื่นเข้าใจ
4. ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี: โดยการแสดงผลผ่านการกระทำของตนเอง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้อื่นที่จะปฏิบัติตาม
5. สามารถแสดงความจริงใจให้คนอื่นเห็นได้: ความจริงใจในความคิดและความรู้สึกของตนเอง และการให้ความสำคัญกับความจริงใจของผู้อื่น
6. มีการประเมินผลและการปรับตัวเป็นระยะ: ความยืดหยุ่นในการประเมินผลการสร้างแรงบันดาลใจและการปรับปรุงเทคนิคหรือวิธีการต่างๆ
7. ศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต: ความอยากรู้อยากเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ จิตวิทยา และการสื่อสาร
8. การเข้าร่วมกิจกรรมที่เน้นการทำงานเป็นทีม: ผ่านการทำงานร่วมกับผู้อื่น การสร้างความสัมพันธ์ และการแก้ปัญหาร่วมกัน
9. การเป็นผู้นำด้วยการบริการ: นำโดยการบริการคือการใส่ใจและห่วงใยต่อผู้อื่น และเป็นการนำโดยการแสดงตัวอย่างผ่านการกระทำ
10. การยอมรับความคิดเห็น: การยอมรับและประเมินความคิดเห็นจากผู้คนรอบข้าง เพื่อนำมาปรับปรุงตนเอง
คนที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้เก่งจะมักพัฒนาความสามารถนี้ผ่านประสบการณ์ชีวิต การเรียนรู้ และการฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่อง