คู่มือการพัฒนาความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์

1.ความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์ คืออะไร

2. มีประโยชน์อย่างไร

3. จะพัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร

4. องค์กรที่พนักงานมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีวัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไร

5. ผู้จัดการที่มีพนักงานมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีลักษณะอย่างไร

6. หากแบ่งเป็นระดับ ต้น/กลาง/สูง ควรมีลักษณะอย่างไร

7. หนังสือและ Podcast ที่แนะนำคืออะไรบ้าง

ความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เจริญเติบโตและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจและสังคม

1. ความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์คืออะไร

ความคิดริเริ่มคือการที่บุคคลหรือทีมงานมีความสามารถในการเริ่มต้นและดำเนินการโดยไม่ต้องรอคำสั่งหรือคำแนะนำจากผู้อื่น ส่วนความสร้างสรรค์คือความสามารถในการคิดอย่างเปิดกว้างและสร้างสิ่งใหม่ๆ ออกมา

2. มีประโยชน์อย่างไร

ความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์สร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวขององค์กร นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีการนวัตกรรมและการพัฒนาที่ต่อเนื่อง

3. จะพัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร

การสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์ การอบรมและการเรียนรู้ตลอดไป และการให้ข้อมูลและเครื่องมือที่เหมาะสมให้กับพนักงาน

4. องค์กรที่พนักงานมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีวัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไร

มักจะเป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมเปิดเผย ยินดีรับฟัง และยอมรับความคิดเห็นและคำติชมจากทุกฝ่าย

5. ผู้จัดการที่มีพนักงานมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีลักษณะอย่างไร

ผู้จัดการที่ดีจะต้องเป็นคนที่สามารถสร้างสรรค์ความเชื่อมั่น ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและมีความเปิดใจในการรับฟังและสนับสนุนความคิดริเริ่มของพนักงาน

6. หากแบ่งเป็นระดับต้น/กลาง/สูงควรมีลักษณะอย่างไร

เรามาดูตัวอย่างของแต่ละระดับ ในเรื่องความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์กันครับ

ระดับต้น

ลักษณะ: พนักงานในระดับนี้มักจะรอคำสั่งหรือคำแนะนำ แต่พอได้รับแล้วสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง

ตัวอย่าง: พนักงาน A ได้รับมอบหมายให้จัดการเอกสาร หลังจากนั้นเขาจัดเอกสารให้เรียบร้อยและนำมาส่งให้ผู้จัดการโดยไม่ต้องถามเพิ่มเติม

ระดับกลาง

ลักษณะ: พนักงานในระดับนี้สามารถรับผิดชอบและเริ่มต้นโปรเจคหรืองานใหม่ๆ โดยไม่ต้องรอคำสั่ง แต่ยังคงอยู่ในขอบเขตหรือนโยบายขององค์กร

ตัวอย่าง: พนักงาน B สังเกตเห็นว่าการประชุมทีมมักจะเริ่มสาย จึงเสนอให้มีการตั้งนาฬิกาจับเวลาในห้องประชุม

ระดับสูงหรือยอดเยี่ยม

ลักษณะ: พนักงานในระดับนี้ไม่เพียงแต่สามารถเริ่มต้นและดำเนินการได้เอง ยังสามารถคิดออกแนวคิดหรือโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมและสามารถสร้างผลกระทบระยะยาวต่อองค์กร

ตัวอย่าง: พนักงาน C คิดค้นระบบใหม่ที่สามารถลดเวลาในการประมวลผลข้อมูลลงไปถึง 50% และได้รับการสนับสนุนจากทีมงานและผู้บริหารในการนำไปใช้

7. หนังสือและ Podcast ที่แนะนำคืออะไรบ้าง

หนังสือ

“QBQ! คำถามที่ซ่อนอยู่ในคำถาม” โดย John G. Miller มีแปลเป็นไทยแล้ว มีตัวอย่างหลายเรื่องที่ทำให้เราเห็นแนวคิดเรื่องความคิดริเริ่มที่เป็นรูปธรรม

“Drive: The Surprising Truth About What Motivates Us” โดย Daniel H. Pink: หนังสือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสิ่งที่จริงๆ แล้วทำให้คนรู้สึกถูกกระตุ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสรรค์ความคิดริเริ่มในทีมงาน

“Creativity, Inc.: Overcoming the Unseen Forces That Stand in the Way of True Inspiration” โดย Ed Catmull: หนังสือนี้เป็นการสำรวจวัฒนธรรมของ Pixar และวิธีที่พวกเขาส่งเสริมความสร้างสรรค์

“The Lean Startup: How Today’s Entrepreneurs Use Continuous Innovation to Create Radically Successful Businesses” โดย Eric Ries: หนังสือนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้วิธีการทดสอบและปรับปรุงแนวคิดใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว

Podcasts

“8 บรรทัดครึ่ง”: ของ กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร (ต้อง) เป็นแหล่งบทความเกี่ยวกับแนวทางการทำงานของคนสมัยใหม่ และมีแนวคิดเรื่องนี้มากมาย

“The Tim Ferriss Show”: ในแต่ละตอน ทิม เฟอร์ริส จะสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน ซึ่งมักจะมีเคล็ดลับและเทคนิคที่มีประโยชน์

“How I Built This” โดย NPR: หากคุณสนใจในเรื่องของความคิดริเริ่มและการสร้างสรรค์ในการสร้างธุรกิจ พอดคาสต์นี้จะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดี

“The Tony Robbins Podcast”: โทนี่ ร็อบบินส์ มักจะสัมภาษณ์และสำรวจเรื่องราวของผู้คนที่ประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน รวมถึงการบริหารจัดการและความคิดริเริ่ม

บทความนี้น่าจะช่วยให้แต่ละคนนำไปประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมของบริบทแต่ละองค์กรนะครับ