การทำงานภายใต้ความคลุมเครือ (Dealing with Ambiguity)

หนึ่งในความท้าทายสำหรับ Knowledge Workers ที่ทำงานใน High Performance Organizations
คือ การทำงานภายใต้ความคลุมเครือ (Dealing with Ambiguity)

เรามาดูกันว่า

  1. Dealing with Ambiguity หมายถึงอะไร
  2. สาเหตุที่ทำให้งานในปัจจุบันมี Ambiguity มากขึ้นมาจากอะไรบ้าง
  3. เราจะบริหารจัดการงานที่มีลักษณะ Ambiguity ได้อย่างไรบ้าง
  4. Soft Skills ที่เราใช้ในการจัดการ Ambiguity มีอะไรบ้าง
  5. คนที่บริหารจัดการ Ambiguity ได้ดีมีลักษณะอย่างไรบ้าง
  6. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่บริหารจัดการงานที่มีลักษณะ Ambiguity ได้ไม่ดี เรามีวิธีจัดการแต่ละสาเหตุอย่างไรบ้าง
  7. Dealing with Ambiguity หมายถึงอะไร:

หมายถึงความสามารถในการทำงานเมื่อต้องเผชิญกับความคลุมเครือและความไม่แน่นอน
โดยเราไม่สามารถค้นหาแนวทางหรือคำตอบจากคู่มือ
หรือเป็นงานที่เราและทีมงานไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
หรือเป็นงานที่เกิดความผันผวนผิดแผน และเป็นเรื่องที่มีความไม่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

  1. สาเหตุที่ทำให้งานในปัจจุบันมี Ambiguity มากขึ้นมาจากอะไรบ้าง:

อาจมาจากหลายปัจจัย เช่นสภาวะดินฟ้าอากาศ ภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ความไม่แน่นอนทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องของหน้าที่ ความคาดหวัง และผลลัพธ์ที่ต้องการ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย

  1. เราจะบริหารจัดการงานที่มีลักษณะ Ambiguity ได้อย่างไรบ้าง:

การสร้างวัฒนธรรมที่ยอมรับความไม่แน่นอน การสื่อสารที่ชัดเจน และการมีกระบวนการตัดสินใจที่เป็นระบบ

  1. Soft Skills ที่เราใช้ในการจัดการ Ambiguity มีอะไรบ้าง:

ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการตัดสินใจ และทักษะการจัดการความเครียด

  1. คนที่บริหารจัดการ Ambiguity ได้ดีมีลักษณะอย่างไรบ้าง:

คนที่จัดการกับความไม่แน่นอนได้ดีมักจะมีความยืดหยุ่น มีทักษะการสื่อสารที่ดี และมีความสามารถในการตัดสินใจโดยไม่ต้องพึ่งข้อมูลที่ครบถ้วน

  1. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่บริหารจัดการงานที่มีลักษณะ Ambiguity ได้ไม่ดี เรามีวิธีจัดการแต่ละสาเหตุอย่างไรบ้าง

สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่บริหารจัดการงานที่มีลักษณะ Ambiguity ได้ไม่ดี

  1. ขาดทักษะการตัดสินใจ: หลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจในการตัดสินใจเมื่อข้อมูลไม่ครบถ้วน
  2. ความไม่ชัดเจนในการสื่อสาร: ความไม่ชัดเจนในการสื่อสารสามารถทำให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับความคาดหวังและหน้าที่
  3. ความขาดแคลนในความยืดหยุ่น: ความไม่สามารถปรับตัวหรือยอมรับการเปลี่ยนแปลง
  4. ความกลัวความล้มเหลว: ความกลัวที่จะทำผิดหรือไม่ประสบความสำเร็จ
  5. ขาดการเตรียมตัวและการฝึกฝน: ไม่มีการเตรียมตัวหรือฝึกฝนในการจัดการกับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอน

วิธีจัดการแต่ละสาเหตุ

  1. ขาดทักษะการตัดสินใจ:

ฝึกทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลและการประเมินตัวเลือก การใช้เทคนิคการตัดสินใจที่เป็นระบบเช่น Scenario Planning หรือ SWOT Analysis หรือ Decision Matrix สามารถช่วยได้

  1. ความไม่ชัดเจนในการสื่อสาร:

การสร้างระบบการสื่อสารที่เป็นระบบและชัดเจน รวมถึงการใช้เครื่องมือที่ช่วยในการสื่อสารอย่าง Slack หรือ Microsoft Teams

  1. ความขาดแคลนในความยืดหยุ่น:

ฝึกในการปรับตัวและยอมรับการเปลี่ยนแปลง การมี Growth Mindset ที่เปิดกว้างและยินดีเรียนรู้จากการล้มเหลว

  1. ความกลัวความล้มเหลว:

เปลี่ยนความเชื่อให้ไม่กลัวความล้มเหลว
ให้เป็นการเชื่อว่า ล้มก่อน ล้มเร็ว ล้มราคาถูก (Fail first, Fail fast, Fail cheap)

  1. ขาดการเตรียมตัวและการฝึกฝน:

พยายามหาประสบการณ์ในงานที่ต้องเผชิญความไม่ชัดเจน เช่น
การทำงานในต่างประเทศ
การทำงานกับโครงการที่ไม่มีกรอบและแนวทางมาก่อน
การทำงานโครงการออกสินค้าใหม่
การทำงานโครงการที่เราไม่มีความรู้และประสบการณ์มาก่อนเลย
การสลับหมุนเวียนเปลี่ยนบทบาทไปทำงานในบทบาทที่เราไม่ถนัด

การทำงานภายใต้ความคลุมเครือ เป็นทักษะสำคัญสำหรับปัจจุบันและอนาคต
การมีทัศนคติที่ถูกต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เราเริ่มต้นพัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้นครับ