สิ่งที่หัวหน้างาน/ผู้จัดการ/ผู้อำนวยการพลาดบ่อย คือ ขยันแต่ประสิทธิผลต่ำ
คนที่ทำงานเก่ง ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้า จึงทำงานของตนเองหนักขึ้น แทนที่จะขับเคลื่อนงานให้สำเร็จผ่านพนักงานที่สังกัดของตน
หัวหน้าได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ จึงทำหน้าที่หัวหน้ามากขึ้นโดยเน้นที่การลงมือทำงานและการติดตามงาน ซึ่งมักจะเกี่ยวเนื่องไปเรื่องการลงมือแก้ไขปัญหางานของพนักงาน แทนที่จะจัดการงานผ่านหัวหน้าที่สังกัดของตน
ผู้จัดการได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ แต่กลับไปทำหน้าที่ของผู้จัดการบ้าง/หัวหน้าบ้าง/พนักงานบ้าง แทนที่จะอำนวยการงานให้สำเร็จผ่านผู้จัดการ
เราจึงเห็นผู้บริหาร (หัวหน้างาน/ผู้จัดการ/ผู้อำนวยการ) ยุ่ง แต่ปัญหาระระยาวกลับไม่ได้รับการจัดการ พนักงานทำงานไม่เก่งไปเรื่อย ๆ
ตาราง 2.1 ด้านล่างนี้ช่วยให้เราเห็นภาพและเข้าใจบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ และการจัดสรรเวลาของแต่ละตำแหน่งได้ดีขึ้น และนำไปสู่การขับเคลื่อนงาน การจัดการงาน และการอำนวยการงานที่เหมาะสม
จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ให้ไว้ในตารางแต่ละช่องนั้นยืดหยุ่นได้ ไม่ต้องเท่ากับจำนวนนั้นไปทุกช่อง แต่ให้ไว้เพื่อเปรียบเทียบการจัดสรรเวลาของแต่ละระดับ เช่น หัวหน้างาน วางแผนน้อยกว่า ผู้จัดการ และผู้จัดการวางแผนน้อยกว่าผู้อำนวยการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทและประเภทธุรกิจของแต่ละองค์กรด้วยครับ
แนวทางการประยุกต์ใช้แนวคิดนี้
1. ทบทวนแผนที่คิดว่าควรจะเป็น: นั่งลงแล้วประเมินว่า ในหกเดือนที่ผ่านมา เราจัดสรรเวลาอย่างไร
2. วิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นจริง: ลองเก็บข้อมูลจากตารางการทำงานในหกเดือนที่ผ่านมา แล้วเทียบแผน
3. วางแผนใหม่: หากมีสิ่งที่ควรปรับปรุง ให้จัดทำแผนใหม่สำหรับหกเดือนถัดไป
4. ติดตามประเมินผล: ลงมือทำตามแผน และเมื่อผ่านไปหนึ่งเดือน ลองวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นจริง