บทความนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก AI Google (Gemini) ในการรวบรวมข้อมูล ( 12 ต.ค. 67)
ทำอย่างไรเมื่อเราไม่ได้โปรโมทตามที่เราคาด
การไม่ได้รับการโปรโมทตามที่คาดหวังไว้ อาจทำให้รู้สึกผิดหวัง ท้อแท้ และเสียกำลังใจได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประสบการณ์นี้เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาตนเอง และเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสในอนาคต
บทความนี้จะนำเสนอแนวทางในการรับมือและพัฒนาตนเองเมื่อไม่ได้รับการโปรโมท พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
1. เราต้องทำหน้าที่เดิมให้ดีขึ้นอีกอย่างไร
แม้ว่าเราจะรู้สึกว่าทำงานได้ดีอยู่แล้ว แต่การไม่ได้รับการโปรโมทอาจเป็นสัญญาณว่ายังมีบางสิ่งที่เราต้องปรับปรุง
ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณเป็นพนักงานขายที่ทำยอดขายได้ตามเป้าหมายมาโดยตลอด แต่หัวหน้าเลือกโปรโมทเพื่อนร่วมงานคนอื่น ลองพิจารณาว่า นอกจากยอดขายแล้ว คุณมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมอย่างไรบ้าง เช่น การแบ่งปันความรู้ การช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน หรือการเสนอไอเดียใหม่ๆ
2. เรามีอะไรที่ขาดไปและต้องพัฒนาเพิ่มเติมบ้าง
การพิจารณาถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองอย่างตรงไปตรงมา จะช่วยให้เรามองเห็นทักษะหรือคุณสมบัติที่จำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มเติม
ตัวอย่าง: หากคุณเป็นนักออกแบบ แต่ขาดทักษะในการนำเสนองาน อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการโปรโมท เพราะการสื่อสารกับลูกค้าและนำเสนอผลงานอย่างมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น การฝึกฝนทักษะการนำเสนอ การสื่อสาร และการสร้างความสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งที่คุณควรพัฒนา
3. เราได้เรียนรู้อะไรจากประสบการณ์นี้บ้าง
การไม่ได้รับการโปรโมท เป็นบทเรียนที่มีค่า ทำให้เราได้ทบทวนตนเอง เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสต่อไป
ตัวอย่าง: หากคุณไม่ได้รับการโปรโมท เพราะหัวหน้ามองว่าคุณยังขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการทีม คุณอาจจะลองหาโอกาสในการเป็นผู้นำโครงการเล็กๆ เพื่อพัฒนาทักษะการบริหารจัดการ และเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
4. เราได้สร้างคนมาพร้อมแทนเราแล้วหรือยัง
หนึ่งในคุณสมบัติของผู้นำที่ดี คือความสามารถในการพัฒนาและสร้างคน การเตรียมคนให้พร้อมรับช่วงต่อ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และความรับผิดชอบ
ตัวอย่าง: หากคุณเป็นหัวหน้าทีม ลองพิจารณาว่า คุณได้ถ่ายทอดความรู้ และพัฒนาทักษะให้กับลูกน้อง เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานแทนคุณได้หรือไม่ การมีผู้ช่วยที่สามารถทำงานแทนคุณได้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการโปรโมท เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถบริหารจัดการ และพัฒนาบุคลากรได้
5. เราอาจอัตตาสูงจนคนไม่กล้าบอกในเรื่องใด
บางครั้ง อัตตา หรือการยึดติดในความคิดเห็นของตนเอง อาจเป็นอุปสรรคในการพัฒนา ทำให้เรามองไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
ตัวอย่าง: หากคุณเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น อาจทำให้เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง ไม่กล้าบอกข้อบกพร่องของคุณ ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาตนเอง ดังนั้น การเปิดใจรับฟัง และยอมรับในข้อผิดพลาด เป็นสิ่งสำคัญ
6. เราหวังไว้นั้นสอดคล้องความเป็นจริงเพียงใด
การตั้งความหวังที่สูงเกินไป อาจทำให้เกิดความผิดหวัง เมื่อไม่ได้เป็นไปตามที่คาด ดังนั้น การประเมินตนเอง และเป้าหมาย อย่าง réaliste เป็นสิ่งสำคัญ
ตัวอย่าง: หากคุณเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่นาน แต่หวังว่าจะได้รับการโปรโมทเป็นผู้จัดการ อาจเป็นความคาดหวังที่สูงเกินไป ลองตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกับความสามารถ และประสบการณ์ เช่น การเป็นหัวหน้าทีม หรือ การได้รับมอบหมายงานที่ท้าทายมากขึ้น
การไม่ได้รับการโปรโมท ไม่ใช่จุดจบของเส้นทางอาชีพ แต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสที่ดีกว่าในอนาคต ขอให้คุณนำแนวทางที่กล่าวมาข้างต้นไปปรับใช้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน