คนทำงานที่คิดว่าตัวเองทำเต็มที่ตามความสามารถของตนนั้น
ส่วนใหญ่ไม่ตระหนักว่า
“เขาแค่ทำงานตามความสามารถของความเชื่อของเขาเท่านั้น”
ลองดูตัวอย่างสนับสนุนแนวคิดนี้ดูครับ…
จากวีดีทัศน์เรื่อง Self-Esteem & Peak Performance ของ Jack Canfield
นักพูดชื่อดังและนักเขียนหนังสือขายดีระดับโลก Chicken Soup of the Soul
เขาเล่าให้ฟังถึงคุณยายอายุ 63 ปี ในอเมริกา ที่เห็นรถคันใหญ่ทับขาของหลานเธอเข้า
เธอจึงวิ่งผลุนผลันออกไป และด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรมากเพียงแต่ต้องการจะช่วยหลานของเธอ
เธอจึงออกแรงยกรถดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งโดยปกติต้องใช้ผู้ชายที่แข็งแรง 4-5 คนจึงจะยกขึ้น
หลังจากนั้นก็มีนักข่าวหลายคนพยายามจะสัมภาษณ์เธอถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว
จนกระทั่งนาย ชาร์ล การ์ฟีลด์ นักเขียนเกี่ยวกับพลังสร้างสรรค์ในตัวมนุษย์
ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับเธอ โดยเธอเล่าให้ฟังด้วยเหตุผลสั้น ๆ ว่า
“การกระทำของเธอได้ทำให้เธอตระหนักว่า ตัวเธอเองนั้นมีศักยภาพมากกว่าที่เธอคิด
และยิ่งเธอนึกถึงเรื่องนี้มากเท่าใด ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า
แล้วในอดีตเธอได้ล้มเลิกความคิดโดยไม่กล้าทำอะไรตั้งหลายอย่าง
เพราะคิดว่าตนเองคงไม่มีความสามารถจะทำได้
ซึ่งเธอเพิ่งจะตระหนักว่าเธออาจจะคิดผิดอย่างมหันต์ สำหรับหลาย เรื่องในอดีต
ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เธอทำใจได้ลำบาก
เพราะรู้สึกเสียดายโอกาสในชีวิตหลายครั้งที่ได้ปฏิเสธไปก่อนลงมือทำ”
Jack เล่าเรื่องนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจคนหนุ่มสาวอย่างพวกเราว่า
อย่ารอให้อายุถึง 63 ปีก่อนแบบคุณยายท่านนี้
ที่เพิ่งจะมาพบศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง
ทุกครั้งที่เราคิดว่า “เราทำเต็มความสามารถ”
ถามตัวเองว่า “เป็นไปได้ไหมว่า เราทำเพียงเต็มความสามารถของความเชื่อเราเท่านั้น”
ถ้าคำตอบทำให้เราตระหนักรู้ เราอาจจะเปลี่ยนความเชื่อ และนำไปสู่การเปลี่ยนวิธีการ