“คุณทวี ขอบคุณมากเลยสำหรับหนังสือ How to become the most wanted employee around ของ David Freemantle ที่คุณให้ผมมาหลายเดือนก่อน”
“ด้วยความยินดีครับ อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ”
“เล่มนี้เป็นเล่มที่ 16 ของผู้เขียนซึ่งเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จมาก่อน เขาเคยเป็นถึงกรรมการของสายการบิน British Caledonian Airline มาก่อน หนังสือแนะนำแนวทางห้าสิบข้อของการทำตัวให้เป็นที่ต้องการของนายจ้าง ผมจะลองยกตัวอย่างบางข้อให้ฟังครับ
1. มีแผนการเรียนรู้ของตนเอง ผู้เขียนบอกว่า 95% ของการเรียนรู้งานนั้นมาจากตนเองไม่ใช่จากห้องเรียนหรือตำรา คุณต้องจัดทำแผนการเรียนรู้และพัฒนาตนเองขึ้นมา ซึ่งมันอาจจะเป็นการเรียนรู้จากหนังสือ วารสารทางธุรกิจ เข้าอบรม สัมนาหรือขอคำแนะนำจากผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่าง ๆ คุณต้องวางแผนการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่มีใครวางแผนพัฒนาตนเองให้คุณได้ มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายในชีวิตหน้าที่การงานของคุณเอง เมื่อคุณออกจากรั้วมหาวิทยาลัยขอให้คุณตระหนักว่ายังมีสิ่งต่าง ๆที่คุณจะต้องเรียนรู้อีกมากมายนัก การเรียนรู้นอกตำราคือความท้าทายอย่างยิ่ง คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่พัฒนาตนเองไปในทุก ๆระดับที่เขาเติบโตขึ้นในสาขาอาชีพ
2. ฟังว่าคนเก่งเขาฟังอะไรกัน เวลาเราฟังคนเก่ง ๆ เขาพูด อย่าฟังเพียงเฉพาะคำพูดของเขาเท่านั้น แต่จงฟังลงไปอีกระดับหนึ่ง คือการฟังเพื่อพยายามค้นหาว่าคนที่เฉลียวฉลาดนั้นเขาฟังอะไร ตัวอย่างเช่นประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับอิทธิพลจากการอ่านเรื่องราวของอดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น อย่างมาก ผู้เขียนจึงศึกษาหนังสือเกี่ยวกับลินคอล์นถึงสองเล่ม เพื่อที่จะพยายามเข้าใจว่าโอบามาคิดอย่างไร เพราะทำให้เขาประเมินได้ว่าผู้นำของอเมริกาคิดอย่างไร และแนวโน้มและทิศทางของอเมริกาในเวทีโลกจะเป็นอย่างไร เพื่อผู้เขียนจะได้ปรับตัวให้สอดคล้องกัน
3. ทำงานกับนายจอมเผด็จการหนึ่งปีเท่ากับเรียนปริญญาโท นายที่เป็นเผด็จการมักจะเลือดร้อน คาดการณ์ได้ยาก และไม่ค่อยมีเหตุผล พวกเขามีแนวโน้มที่จะเจ้าอารมณ์เกินเหตุ แต่พวกเขามีอะไรให้เราเรียนรู้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเขาและตัวเองอย่างมาก คุณจะได้เรียนรู้วิธีเอาตัวรอดเมื่อถูกข่มเหง ผู้เขียนเล่าว่าเขาเคยมีประสบการณ์การทำงานกับนายเผด็จการคนหนึ่ง ซึ่งมักจะเรียกร้องลูกทีมแบบไม่สมเหตุสมผล เช่นเขาอาจจะโทรหาลูกทีมทุกคนตอนสามทุ่มเพื่อจะขอให้เข้ามาประชุมที่สำนักงานของเขาด่วนเวลาห้าทุ่มคืนวันเดียวกัน นายคนนั้นทำให้ผู้เขียนเรียนรู้ที่จะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา นายท่านนั้นจะไม่อดทนต่อข้อมูลที่กำกวม เขาต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และทันสมัยตลอดเวลาไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม นอกจากนี้ผู้เขียนยังเรียนรู้ว่าเขามีโอกาสแสดงความเห็นโต้แย้งนายได้บ้างเหมือนกัน แต่ต้องแน่ใจว่าข้อมูลที่มี มีความถูกต้องครบถ้วน 100% นายของเขาจะรับฟัง และบางครั้งก็อาจจะคล้อยตามบ้าง พวกนายเผด็จการแบบนี้ จะทำให้ ‘เด็กกลายเป็นชาย’ และทำให้คน ’อ่อนแอเป็นคนแข็งแกร่ง’ นายแบบนี้นี่แหละที่จะทำให้คุณรู้ว่าตนเองเป็นคนอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง พวกคนที่อ่อนแอก็จะค่อย ๆ ถอยห่างออกไปจากนาย ในขณะที่คนที่แข็งแกร่งจะเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็วในหลายมิติ พวกเขาจะได้เรียนรู้ว่าการทำงานร่วมกับคนที่ไม่มีเหตุมีผลนั้นต้องวางตัวอย่างไร (ซึ่งมันมีเรื่องราวให้เราได้เรียนรู้มากมายกว่าที่คุณคาดคิดไว้) พวกเขาเรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับการดูถูกเหยียดหยาม (โดยการทำตัวเองให้แกร่งขึ้น เพราะนายเผด็จการมักชอบเล่นงานคนอ่อนแอ) คนแกร่งจะเรียนรู้ที่จะทำงานอย่างยอดเยี่ยมและใส่ใจในทุกรายละเอียด อย่าลืมว่านายเผด็จการนั้นต้องมีดีมากทีเดียวเขาถึงสามารถขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ เราควรเรียนรู้ข้อดีเหล่านั้น และพยายามจดจำว่าสิ่งที่ไม่ดีที่เขาทำคืออะไรเพื่อเราจะไม่ทำตาม
4. ต้องเข้าตากรรมการ อยู่ให้ถูกที่ถูกเวลา พยายามร่วมงานกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร และแสดงท่าทีเป็นมิตรพร้อมจะพูดคุยกับผู้ใหญ่หากเขาเดินเข้ามา รู้จักถามคำถามดี ๆ และแสดงความเห็นที่น่าสนใจในที่ประชุม เมื่อร่วมงานกิจกรรมพยายามสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้บริหารระดับสูง”