มาร์คถามคุณอรัญซึ่งเป็น Executive Coach ประจำตัวเขาในระหว่างการโค๊ชประจำสัปดาห์ว่า “คุณอรัญ ผมไม่มีปัญหาเรื่องการกล้าแสดงความคิดเห็นของพนักงานชาวไทยที่ผมทำงานด้วยเลยนะ เขากล้าพูดกล้าซักไม่ว่าสองต่อสอง หรือในที่ประชุมก็ตาม แต่ที่เป็นปัญหาคือเรื่อง Empowerment หรือการมอบหมายงานและความรับผิดชอบต่างหากละ”
อรัญจึงถามกลับไปว่า “หมายความว่าอย่างไรมาร์ค ที่คุณบอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับ Empowerment นะครับ”
มาร์คสาธยาย “ผมเชื่อเสมอว่าถ้าเรา empower งานให้กับคนทำงานแล้ว เขาจะมีความมุ่งมั่นรับผิดชอบและเป็นเจ้าภาพในงานนั้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมมอบหมายให้ผู้จัดการฝ่ายการตลาดไปวางกลยุทธ์การตลาดในปีหน้ามา ปรากฏว่าเธอกลับมาพร้อมกับกิจกรรมทางการตลาดมากมาย แต่ไม่ใช่ที่ผมต้องการ สุดท้ายผมเลยต้องทำเองใหม่หมดเลย เธอก็หงุดหงิดหาว่าผมมีคำตอบสำเร็จรูปอยู่แล้วยังมาขอให้เธอทำอีก คราวหลังเวลามอบหมายงานอื่นให้ เธอกลับถามกลับในทันทีเลยว่า ผมต้องการแบบไหนเธอจะทำให้ ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
อรัญจึงซักต่อ “ลองบอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้จัดการการตลาดคนนี้เพิ่มหน่อยซีครับ”
มาร์คเล่าต่อ “เธอจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย แล้วก็ตรงไปต่อโทต่างประเทศสาขาการตลาดเลย หลังจากจบก็มาทำงานในบริษัทไทยขนาดใหญ่ในตำแหน่งผู้จัดการแผนกการตลาดสองปี จึงมาร่วมงานกับเรา”
อรัญถามต่อ “แล้วเธอทราบหรือไม่ว่ากลยุทธ์การตลาดในความหมายของคุณนั้นเป็นอย่างไรกันแน่นะครับ”
มาร์คตอบว่า “ผมว่าเธอน่าจะรู้นะครับ เพราะเธอเรียนมาโดยตรง แถมมีประสบการณ์เป็นผู้บริหารการตลาดมาก่อน เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะพลาด แถมเธอเป็นคนที่เฉลียวฉลาดออก คุณไม่คิดอย่างงั้นหรือครับ”
อรัญยิ้มพร้อมกับตอบแบบกลาง ๆ ว่า “มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์นะมาร์ค ที่ผมจะพูดต่อไปนี้ มันดูเหมือนจะเป็นการดูถูกคนไทยด้วยกันเอง แต่มันเป็นข้อสังเกตที่ผมเห็นเกิดขึ้นมามาก แม้ว่าจะไม่เป็นกันทุกคนก็ตาม
เด็กไทยส่วนใหญ่จบตรีก็รีบต่อโทกันเลย พวกเขาขาดประสบการณ์ในการทำงาน ดังนั้นเวลาเรียนก็จะเชื่อมโยงทฤษฏีกับการปฎิบัติลำบาก ก็อย่างที่เราทราบกันนะครับว่าการเรียนโทนั้นโดยเฉพาะในต่างประเทศเขาสอนให้เราคิดและวิเคราะห์โดยการใช้กรณีศึกษาเป็นจำนวนมาก ไม่ได้เน้นการท่องจำตำราแบบที่เด็กไทยเราคุ้นเคย นอกจากนี้เด็กเราส่วนใหญ่ก็ไปเรียน รีบจบเพื่อเอาวุฒิแทนที่จะทำความเข้าใจกับความรู้ ที่น่าขำก็คือ ผมเห็นพ่อแม่ช่วยเด็กทำกรณีศึกษาและการบ้านข้ามนํ้าข้ามทะเลกันเชียว แล้วคุณจะหวังให้เขาได้อะไรกันมากมาย
แล้วก็การที่เขาทำงานผู้จัดการแผนกการตลาดในบริษัทไทยนั้น เขาอาจจะไม่มีส่วนในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดมากนักก็เป็นไปได้ เพราะว่าองค์กรไทยส่วนใหญ่มักจะกำหนดยุทธ์ศาสตร์โดยผู้บริหารระดับสูงไม่กี่คน หลายครั้งที่ผู้จัดการแผนกการตลาดเป็นเพียงแค่ตำแหน่ง แต่การทำงานกลับเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเท่านั้น”
มาร์คจึงถามต่อ “แล้วผมควรทำอย่างไรดีละ”
อรัญเสนอแนะว่า “คราวหน้าก่อน Empowerment อะไรคุณอาจจะต้องแน่ใจก่อนว่า ผู้ปฏิบัตินั้นเขามีทักษะและความรู้เพียงพอหรือตรงความคาดหวังของคุณหรือไม่ ถ้าไม่คุณก็ควรจะโค้ชเธอก่อนที่จะมอบหมายไป เราลองมาใช้กรณีนี้ของคุณเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ
สมมติว่าคุณต้องการมอบหมายเธอให้ไปวางกลยุทธ์ทางการตลาดปีหน้า คุณควรเรียกเธอมา แล้วลองพูดคุยกับเธอว่า คุณต้องการให้เธอทำอะไร หลังจากนั้นก็ต้องสอบถามเธอแบบสุภาพว่า เธอมีประสบการณ์เกี่ยวกับการวางกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างไรในที่ทำงานเดิมของเธอ
หากเธอบอกให้คุณรู้ว่าในความเข้าใจของเธอและจากประสบการณ์ของเธอนั้นกลยุทธ์ทางการตลาดเป็นเพียงแค่กิจกรรมทางการตลาดในความเห็นของคุณ ตรงนี้ต้องใช้จิตวิทยากันหน่อย โดยคุณต้องระวังรักษาหน้าเธอไว้ด้วย โดยอาจจะบอกกับเธอว่า แต่ละองค์กรมีนิยามและความหมายในคำศัพท์แต่ละคำไม่เหมือนกัน กลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับบริษัทเราควรจะเป็นอย่างไรคุณก็บอกเธอไป เพื่อให้เธอมีความเข้าใจที่ตรงกัน
คราวนี้คุณอาจจะต้องนำตัวอย่างกลยุทธ์ทางการตลาด ของปีปัจจุบันให้เธอดู”
มาร์คแทรกเข้ามว่า “พอเห็นตัวอย่างแล้วก็มอบหมายให้เธอกลับไปทำเลยใช่ไหมครับ”
อรัญพูดต่อ “ก็แล้วแต่นะ แต่ผมว่าเพื่อให้ชัวร์ คุณควรจะโค้ชเธอต่อซักนิดจะเหมาะกว่า”
มาร์คแย้งว่า “แต่เธอเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายการตลาดเชียวนะ เธอน่าจะรู้นี่นา”
อรัญยืนยัน “อย่าด่วนสรุปซีมาร์คว่า เธอน่าจะ…คุณก็มีบทเรียนมาเยอะแล้วนี่กลับมาตัวอย่างนี้ อย่างน้อยก่อนจะมอบหมายไป คุณควรไกด์เธอซักนิดว่าคุณมีความคาดหวังอะไรบ้าง ข้อจำกัดอะไรอีก ผลลัพธ์ที่ต้องการออกมาควรจะมีลักษณะอะไร เปรียบเสมือนให้โครงกระดูกกับเธอไป แล้วให้เธอไปเติมส่วนที่เป็นเนื้อหนังมังสาเอาต่อ มันอาจจะช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ง่ายหน่อยสำหรับมือใหมหัดขับ
หากคุณพูดลอย ๆ ออกไป เธอก็อาจจะกลับมาพร้อมกับงานที่กลวง ๆ ขาดความชัดเจน และไม่ตรงกับความต้องการของคุณก็ได้
ที่แนะนำอย่างนี้ก็เพราะเราคนไทยถูกฝึกมาให้คิดตามแบบ เราต้องเห็นตัวอย่าง และมีคำสั่งที่ค่อนข้างชัดเจนหน่อย โดยเฉพาะตอนเริ่มต้น เรามีปัญหากับการที่จะนำเอาความรู้และทฤษฎีมาบูรณาการกับปัญหาในชีวิตจริงของเรา อย่าคาดหวังว่าการที่เขามีวุฒิการศึกษา เขาจะทำได้ตามที่เรียนมาได้
สุดท้าย คุณอาจจะเสนอตัวว่า ลองให้เธอจัดทำร่างมาก่อน ก่อนะสรุปเป็นชิ้นงานในตอนสุดท้าย ในฐานะหัวหน้างาน เราต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการฝึกและพัฒนาคนของเราให้ทำงานให้เก่งขึ้นนะมาร์ค”