Learning Agility ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวเร็ว

เป็นสมรรถนะสำคัญที่ช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญกับความท้าทายในยุคที่การเปลี่ยนแปลง รวดเร็ว ผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน แลละคลุมเครือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เพราะว่า ความรู้และประสบการณ์เดิมอาจไม่เพียงพอกับบริบทที่เปลี่ยนไป 

คนที่มี Learning Agility สูงสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ใหม่และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

1. Learning Agility คืออะไร

Learning Agility คือความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว โดยเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ ไม่ยึดติดกับวิธีการหรือความรู้เดิมที่มี บุคคลที่มี Learning Agility จะสามารถดึงบทเรียนจากประสบการณ์ที่หลากหลายมาปรับใช้ในสถานการณ์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ประโยชน์ของคนที่มี Learning Agility สูง

คนที่มี Learning Agility สูงมีข้อดีหลายอย่างในด้านการทำงานและการพัฒนาตนเอง:

– การปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่: สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนและซับซ้อน

– การเรียนรู้ตลอดชีวิต: มีความสามารถในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแม้ในบริบทใหม่

– การตัดสินใจที่ดีขึ้น: เนื่องจากสามารถเข้าใจบริบทที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น

– การสร้างนวัตกรรม: คนที่เรียนรู้และปรับตัวเร็วจะสามารถมองหาวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาและปรับปรุงงาน

– การเติบโตในอาชีพ: คนที่มี Learning Agility มักจะได้รับโอกาสในการเติบโตในอาชีพการงานมากขึ้นเพราะสามารถรับมือกับความท้าทายได้ดีกว่า

3. วิธีพัฒนา Learning Agility ตาม 70:20:10 model for learning and development

70:20:10 model เป็นแนวทางการพัฒนา Learning Agility โดยแบ่งการเรียนรู้ออกเป็นสามส่วน:

3.1 10% Learn from classroom

การเรียนในห้องเรียนหรือการอบรมช่วยให้พนักงานได้รับความรู้พื้นฐานและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง:

– การเรียนรู้ทฤษฎีและหลักการที่เกี่ยวข้องกับการคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking) และการคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

– การเรียนผ่านคอร์สออนไลน์หรือสัมมนาที่เน้นการพัฒนา Learning Agility

– การฝึกอบรมที่เน้นการจำลองสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกการปรับตัวในสถานการณ์ใหม่ๆ

3.2 20% Learn from coach/mentor

การเรียนรู้จากโค้ชหรือพี่เลี้ยงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่ม Learning Agility:

– โค้ชหรือเมนเทอร์ช่วยสะท้อนและตั้งคำถามที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมองหามุมมองใหม่ๆ และวิธีการคิดที่แตกต่าง

– การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงระหว่างโค้ชหรือเมนเทอร์กับผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนได้เห็นภาพการแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

– การสนับสนุนผู้เรียนให้ทดลองแนวทางใหม่ๆ ในการทำงานผ่านการแนะนำหรือชี้แนะของโค้ช

3.3 70% Learn from experience

การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด:

– การให้บุคลากรทำงานในโปรเจ็กต์ที่ท้าทายหรือในสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ต้องการการคิดและการแก้ปัญหาที่แตกต่างไปจากเดิม

– ส่งเสริมการรับมือกับความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เนื่องจากคนที่มี Learning Agility จะไม่กลัวการล้มเหลวแต่จะนำบทเรียนจากความล้มเหลวมาพัฒนาตนเอง

– การจัดให้มีการหมุนเวียนงาน (Job Rotation) เพื่อให้บุคลากรได้สัมผัสกับสถานการณ์และบริบทที่หลากหลาย

4. มีแง่มุมไหนอีกที่เราควรเข้าใจเกี่ยวกับ Learning Agility

– Self-awareness: การที่บุคคลมีความตระหนักรู้ในตนเอง เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เขาสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

– Feedback Seeking: คนที่มี Learning Agility จะเป็นผู้ที่ยินดีรับคำแนะนำและคำวิจารณ์จากผู้อื่น และนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาตนเอง

– ความยืดหยุ่นในความคิด (Cognitive Flexibility): คนที่มี Learning Agility มักจะมีความสามารถในการคิดแบบหลากหลายและไม่ยึดติดกับวิธีการแบบเดิมๆ

– การเรียนรู้เชิงทดลอง (Experimental Learning): การลองทำสิ่งใหม่ๆ เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา Learning Agility