เราแต่ละคนมีโอกาสถูกเลิกจ้างได้เสมอ
ดังนั้น เราจึงควรนั่งลงวิเคราะห์ว่า
A. สาเหตุที่เราน่าจะถูกเลิกจ้างคืออะไรบ้าง
B. จะจัดการแต่ละสาเหตุได้เพียงใด และจัดการได้อย่างไร
C. ศึกษาตัวอย่างประกอบในแต่ละคำตอบของ ข้อ B.
A. สาเหตุที่เราน่าจะถูกเลิกจ้าง
1. งานที่เราทำไม่มีก็ได้
สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้จากกระบวนการทำงานใหม่ที่ไม่มีขั้นตอนของงานที่เราทำอีกต่อไปแล้วเช่นพนักงานออกแบบสิ่งพิมพ์ถูกเลิกจ้างเพราะ AI มาทำงานนแทนได้
แนวทางจัดการ:
– ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของธุรกิจของบริษัทและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินโอกาสที่งานของเราจะถูกเลิกจ้าง
– พัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อเพิ่มโอกาสในการคงตำแหน่งงาน
– เตรียมแผนสำรองหากถูกเลิกจ้าง เช่น การออมเงิน หางานใหม่ เป็นต้น
2. งานที่เราทำ Outsource แล้วถูกกว่ามาก
สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถจ้างบุคคลภายนอกหรือบริษัทอื่นเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่เราทำได้ถูกกว่า เช่น งานที่ทำซ้ำ งานที่ใช้ทักษะหรือความรู้ที่ไม่ซับซ้อน เป็นต้น
แนวทางจัดการ:
– ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่าจ้างของบุคคลภายนอกหรือบริษัทอื่นที่ทำงานในตำแหน่งที่เราทำ เพื่อเปรียบเทียบกับค่าจ้างของเรา
– พัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงานในตำแหน่งที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับงานของเรา
– หาโอกาสในการเพิ่มรายได้จากงานอื่นๆ เช่น การทำธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น
ตัวอย่างประกอบ:
บริษัทที่รับทำเว็บไซต์จ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์อีกแห่งหนึ่งเข้ามาทำงานแทนพนักงานฝ่ายพัฒนาเว็บไซต์ เนื่องจากบริษัทรับทำเว็บไซต์อื่นเสนอราคาที่ถูกกว่า
3. งานที่เราทำค่าจ้างสูงมากเกินไปจ้างคนใหม่ถูกกว่าเยอะ
สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทประสบปัญหาทางการเงินหรือต้องการลดต้นทุนการดำเนินงาน
แนวทางจัดการ:
– ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่าจ้างเฉลี่ยของพนักงานในตำแหน่งที่เราทำ เพื่อเปรียบเทียบกับค่าจ้างของเรา
– หาโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อลดต้นทุนแรงงาน
– พัฒนาทักษะเพื่อยกระดับตัวเองให้สามารถทำบทบาทอื่นที่เหมาะกับค่าตัวเรา
ตัวอย่างประกอบ:
บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ประสบปัญหาทางการเงิน ส่งผลให้บริษัทต้องลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยหนึ่งในมาตรการที่บริษัทนำมาใช้คือ การลดพนักงานเก่าและทดแทนด้วยพนักงานใหม่
4. งานที่เราทำคุณภาพออกมาไม่ดี
สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้หากงานของเราไม่เป็นไปตามมาตรฐานหรือความต้องการของลูกค้าหรือนายจ้าง
แนวทางจัดการ:
– ศึกษามาตรฐานหรือความต้องการของลูกค้าหรือนายจ้างอย่างละเอียด
– พัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงานให้ได้คุณภาพ
– ทำงานอย่างรอบคอบและระมัดระวัง
ตัวอย่างประกอบ:
พนักงานฝ่ายบริการลูกค้าได้รับคำติชมจากลูกค้าว่าให้บริการไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้พนักงานคนดังกล่าวถูกพิจารณาให้ออก
5. เราเป็นคนที่ถูกมองว่าทัศนคติไม่ดี
สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้หากเราแสดงพฤติกรรมหรือทัศนคติที่ไม่ดีต่อเพื่อนร่วมงานหรือนายจ้าง เช่น ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน มักพูดจาไม่ดีกับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
แนวทางจัดการ:
– ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของตัวเองให้เหมาะสมกับการทำงานและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
– ฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม
– สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและนายจ้าง
ตัวอย่างประกอบ:
พนักงานฝ่ายขายมักพูดจาไม่ดีกับเพื่อนร่วมงานและลูกค้า ส่งผลให้พนักงานคนดังกล่าวถูกพิจารณาให้ออก
6. เราเป็นคนที่ถูกมองว่าไม่ให้ความร่วมมือกับบริษัท
สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้หากเราปฏิเสธที่จะทำงานที่บริษัทมอบหมาย หรือทำงานด้วยความล่าช้า
แนวทางจัดการ:
– เรียนรู้ที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
– ปรับเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานจากการทำงานคนเดียวเป็นการทำงานเป็นทีม
– ฝึกฝนทักษะการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างประกอบ:
พนักงานฝ่ายการตลาดมักปฏิเสธที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้างาน ส่งผลให้พนักงานคนดังกล่าวถูกพิจารณาให้ออก
7. เราเป็นคนที่ถูกมองว่าทำงานเป็นทีมได้ไม่ดี
สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้หากเราไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางจัดการ:
– เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น
– ฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม
– พัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ตัวอย่างประกอบ:
พนักงานฝ่ายผลิตมักมีปัญหาในการทำงานร่วมกับพนักงานฝ่ายอื่น ส่งผลให้พนักงานคนดังกล่าวถูกพิจารณาให้ออก
ทั้งนี้ โอกาสที่จะถูกเลิกจ้างของแต่ละสาเหตุนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สภาพการแข่งขันทางธุรกิจ นโยบายของบริษัท เป็นต้น พนักงานแต่ละคนจึงควรประเมินโอกาสที่จะถูกเลิกจ้างในแต่ละสาเหตุอย่างรอบคอบ และหาแนวทางในการลดความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้าง
หากเรามีความตระหนักรู้พอสมควร เราอาจจะพบว่าหลายสาเหตุมาจากระดับอัตตาของเราสูงเกินไป
การมีโค้ช หรือพี่เลี้ยง สามารถทำให้เราเกิดความตระหนักรู้มากขึ้น และช่วยหาหนทางจัดการบริหารอัตตาเราให้เหมาะสมขึ้นได้