**เนื้อหาในบทความนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก AI Google (Gemini) ในการรวบรวมข้อมูล (26 กันยายน 2567)**
1. ปรับตัวเร็ว
2. รู้ว่าอะไรด่วน และด่วนกว่า
3. สื่อสารเชิงรุก เกินดีกว่าขาด
4. คิดล่วงหน้าไกลหน่อย
เรามาดูรายละเอียดแต่ละข้อกันครับ
1. ปรับตัวเร็ว ทัน หรือนำสถานการณ์
ปรับตัวเร็วในที่นี้คือ การปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์
โควิด-19 ผ่านมาสองปีแล้ว การปรับตัวของเราอย่างน้อยควรทันสถานการณ์
หากเป็นไปได้ ควรปรับตัวให้ล้ำสถานการณ์ซักนิด
แต่ไม่ควรปรับตัวตามสถานการณ์ เพราะจะไม่ทันกิน
2. รู้ว่าอะไรด่วน และด่วนกว่า (Sense of urgency)
ในยุคนี้ งานปกติแบบตามขั้นตอนมันน้อยลง
เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงมันเร็ว
ดังนั้น งานส่วนที่ จะด่วน หรือด่วนกว่า มีมากขึ้น
หากคนทำงาน ยังคงทำงานแบบปกติ เสมือนก่อนโควิด
ก็แน่นอนว่าเขาจะเครียด เพราะจะถูกบ่นจากคนรอบข้างตลอด
เราจึงต้องตื่นตัวมากขึ้นแน่นอน มันเป็น Flight บังคับ ไม่ใช่ทางเลือก
คนที่เก่งในยุคนี้ก็คือ มองให้ออกว่า งานไหนด่วนจริง และงานไหนที่ด่วนกว่า
และหากไม่แน่ใจ ก็ควรหารือกับคนที่ได้รับผลลกระทบให้บ่อยขึ้น อย่ามโนไปเอง
3. สื่อสารเชิงรุก เกินดีกว่าขาด (Over – Commmunication)
เมื่อการเปลี่ยนแปลงเร็ว
การสื่อสารก็ต้องเร็ว
และเมื่อสื่อสารพลาด ก็ต้องแก้ข่าวเร็วด้วย
สื่อสารมากไป ดีกว่าสื่อสารน้อยไป
จะให้ดี ควรมากแบบมีคุณภาพด้วย
4. คิดล่วงหน้าไกลหน่อย
เมื่อรับมอบหมายงานมา มองให้ออกว่า คนจะนำงานของเราไปทำอะไรต่อ
เราควรส่งสร้างคุณค่าเพิ่มอย่างไรในงานที่เราทำ เพื่อให้เขานำไปใช้ต่อได้อย่างมีคุณภาพ
อย่าทำงานแบบ ขอไปที
เพราะคุณภาพที่เราส่งไป หากมันต่ำไป เขาก็ต้องกลับมาให้เรา Re-work ใหม่
ซึ่งเสียเวลาและประสิทธิผลโดยรวม
คนหลายคนจึงทุกข์ใจมากขึ้น
แต่ลองพิจารณาให้ดีว่า ทุกข์เพราะความคิด หรือทุกข์เพราะเหตุใด
คนส่วนใหญ่ที่ทุกข์ อาจจะยังยึดติดการทำงานแบบง่าย ๆ เหมือนอดีต ในขณะที่โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว