การนำเสนอในที่สาธารณะเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับผู้นำในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับทีมงาน การนำเสนอกับผู้บริหารระดับสูง หรือการพูดต่อหน้ากลุ่มคนใหญ่โต การนำเสนอที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่เพียงแต่จะพิจารณาถึงเนื้อหาและการเตรียมตัว แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการใช้เสียงซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ น้ำเสียง จังหวะ และความดัง โดยสามารถจำแนกระดับความสามารถในการใช้เสียงได้เป็น 3 ระดับ คือ ทั่วไป ดี และยอดเยี่ยม
1. ระดับทั่วไป
ในระดับนี้ ผู้นำสามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจนแต่ยังขาดความมั่นใจหรือความพิเศษในการนำเสนอ การใช้เสียงยังคงอยู่ในระดับพื้นฐานที่สามารถสื่อสารเนื้อหาให้เข้าใจได้ แต่ยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจหรือสร้างอิทธิพลได้อย่างเต็มที่
ก. น้ำเสียง: ในระดับนี้ น้ำเสียงจะมีความเรียบง่าย และไม่มีการปรับน้ำเสียงมากนัก อาจจะขาดการเน้นคำสำคัญ ทำให้ผู้ฟังไม่รู้สึกถึงความมุ่งมั่นหรือความตั้งใจในการสื่อสาร
ข. จังหวะ: จังหวะการพูดอาจไม่สม่ำเสมอ บางครั้งอาจจะเร็วไปหรือช้าไป ทำให้ผู้ฟังตามไม่ทันหรือรู้สึกเบื่อหน่าย
ค. ความดัง: ความดังของเสียงจะอยู่ในระดับที่พอเหมาะสำหรับการได้ยิน แต่ยังขาดการปรับเปลี่ยนความดังเพื่อเน้นจุดสำคัญหรือสร้างความตื่นเต้น
2. ระดับดี
ในระดับนี้ ผู้นำเริ่มมีความเชี่ยวชาญในการใช้เสียงเพื่อสื่อสารเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้เสียงในลักษณะนี้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ฟังได้ดี และสามารถสื่อสารให้ผู้ฟังเข้าใจถึงความสำคัญของเนื้อหาได้มากขึ้น
ก. น้ำเสียง: น้ำเสียงเริ่มมีการปรับเปลี่ยนเพื่อเน้นคำสำคัญ หรือแสดงอารมณ์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่พูด ทำให้การนำเสนอดูน่าสนใจและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ข. จังหวะ: จังหวะการพูดมีความสม่ำเสมอและสามารถปรับให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่ต้องการสื่อสาร เช่น การพูดเร็วในช่วงที่ต้องการสร้างความตื่นเต้น หรือการพูดช้าในช่วงที่ต้องการให้ผู้ฟังได้ไตร่ตรอง
ค. ความดัง: มีการปรับความดังของเสียงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การเพิ่มความดังเพื่อเน้นจุดสำคัญ หรือการลดความดังเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้ฟัง
3. ระดับยอดเยี่ยม
ในระดับนี้ ผู้นำสามารถใช้เสียงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการสื่อสาร การนำเสนอในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่จะสื่อสารเนื้อหาได้อย่างชัดเจน แต่ยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจ ดึงดูดความสนใจ และทำให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมั่นและมีพลังในการปฏิบัติตาม
ก. น้ำเสียง: น้ำเสียงในระดับนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจและพลัง สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ และสามารถแสดงถึงความรู้สึกและอารมณ์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมโยงและมีส่วนร่วมกับเนื้อหา
ข. จังหวะ: จังหวะการพูดมีความสม่ำเสมอและสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ ผู้นำสามารถใช้จังหวะในการสร้างความตื่นเต้น การเน้นจุดสำคัญ และการสร้างช่วงเวลาที่ให้ผู้ฟังได้คิดตาม
ค. ความดัง: ความดังของเสียงถูกปรับให้เหมาะสมและมีการใช้ความดังเพื่อเน้นจุดสำคัญ สร้างความตื่นเต้น หรือสร้างความอบอุ่นในบทสนทนา ทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงพลังและความสำคัญของเนื้อหาที่ถูกนำเสนอ
การใช้เสียงเป็นทักษะที่ผู้นำควรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การที่ผู้นำสามารถใช้เสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้การนำเสนอเป็นที่จดจำ สร้างความเชื่อมั่น และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้นำโดดเด่นและประสบความสำเร็จในการสื่อสารในทุกสถานการณ์
