ในองค์กรสมัยใหม่ การพัฒนาศักยภาพของผู้จัดการเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ หลายองค์กรพยายามที่จะเปลี่ยนผู้จัดการให้กลายเป็นโค้ช โดยหวังว่าจะสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ผู้จัดการจะสามารถเป็นโค้ชที่ดีได้ พวกเขาต้องมีความเชี่ยวชาญในบทบาทของผู้จัดการก่อน
องค์กรทั่วไปมักมีสัดส่วนของผู้จัดการดังนี้:
– ผู้จัดการที่มีความเชี่ยวชาญสูง: 15-20%
– ผู้จัดการระดับปานกลาง: 60-70%
– ผู้จัดการที่ยังขาดความสามารถ: 15-20%
หากเปรียบหน้าที่ของผู้จัดการเป็นการขับเครื่องบิน ผู้จัดการที่ยังไม่เก่งก็เหมือนนักบินที่ยังขับเครื่องบินขั้นพื้นฐานไม่คล่อง เราคงไม่สามารถสอนให้เขาทำการบินผาดโผนได้ หากพื้นฐานยังไม่แน่นอน
ผู้จัดการที่มีความสามารถสูงมีลักษณะ…
1. สร้างแรงบันดาลใจในเป้าหมายของผลงาน: ทำให้ทีมมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีความหมาย
2. สอนวิธีการทำงาน (On-the-job training): แนะนำและสอนงานอย่างมีระบบ
3. มอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ: จัดสรรงานให้เหมาะสมกับความสามารถและศักยภาพของทีม
4. ให้ข้อมูลย้อนกลับเรื่องวิธีทำงานที่ดี: ให้ feedback อย่างสร้างสรรค์
5. แนะนำสิ่งที่ทำพลาดและแนวทางแก้ไข: ช่วยทีมงานในการพัฒนาตนเอง
6. พูดคุยเรื่องความก้าวหน้าของอาชีพเป็นระยะ: วางแผนและส่งเสริมการเติบโตในอาชีพ
7. จัดการเรื่องวินัยกับคนที่ไม่ทำตามระเบียบ: มีความสามารถในการจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบ
กลยุทธ์ในการเปลี่ยนผู้จัดการให้เป็นโค้ช
– การที่จะพัฒนาผู้จัดการให้กลายเป็นโค้ช ควรเริ่มต้นจากกลุ่มผู้จัดการที่มีความเชี่ยวชาญสูง 15-20% ก่อน เพราะพวกเขามีพื้นฐานที่มั่นคงและพร้อมที่จะรับบทบาทใหม่
– สำหรับผู้จัดการระดับปานกลาง 60-70% ควรมีการส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาทักษะในด้านการบริหารผลงานตาม 7 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อพวกเขามีความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้น ก็สามารถเตรียมพร้อมให้เป็นโค้ชได้ในขั้นต่อไป
– ในส่วนของผู้จัดการที่ยังขาดความสามารถ 15-20% องค์กรควรรีบหาบทบาทอื่นให้พวกเขาทำ เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความผูกพันของทีมงาน
บทสรุป
การพัฒนาผู้จัดการให้มีความเชี่ยวชาญก่อนที่จะเปลี่ยนบทบาทเป็นโค้ช เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพและแข็งแกร่ง การมีผู้จัดการที่เก่งในการบริหารผลงานจะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาว