เนื้อหาได้รับความช่วยเหลือจาก Chat GPT 4.0 ในการรวบรวมข้อมูล (19 พ.ย. 2567)
คนส่วนใหญ่ประเมินทักษะการฟังของตัวเองสูงเกินไป
คุณเคยลองถามตัวเองไหมว่า “ฉันฟังได้ดีแค่ไหน”
หรือเคยสงสัยไหมว่าหากไปถามคนรอบตัว
คำตอบที่คุณจะได้รับคืออะไร
ความจริงคือ หลายคนมักคิดว่าตัวเองฟังเก่ง แต่ความจริงอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป
3 ระดับของการฟัง
1. ได้ยินครบทุกคำที่ผู้พูดพูด
คุณอาจจับคำพูดทุกคำได้ แต่แค่ “ได้ยิน” อาจไม่เพียงพอ
2. ได้ยินครบและเข้าใจตรงตามเจตนาของผู้พูด
ระดับนี้คือการฟังอย่างเข้าใจ ไม่ใช่แค่คำพูด แต่รวมถึงบริบท ความรู้สึก และเจตนาที่แฝงอยู่
3. ได้ยินครบ เข้าใจตรงเจตนา และสร้างความเข้าใจร่วมกัน
ระดับที่สูงที่สุดของการฟังคือ การทำให้ผู้พูดมั่นใจว่าเรารับรู้และเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการสื่ออย่างแท้จริง
ตัวอย่างการฟัง 3 ระดับ
– ระดับที่ 1: เพื่อนพูดว่า “ฉันเหนื่อยมาก” คุณตอบกลับว่า “อ๋อ ได้ยินแล้ว”
– ระดับที่ 2: เพื่อนพูดว่า “ฉันเหนื่อยมาก” คุณตอบว่า “เหนื่อยเพราะงานเยอะใช่ไหม”
– ระดับที่ 3: เพื่อนพูดว่า “ฉันเหนื่อยมาก” คุณตอบว่า “ฟังดูเหมือนคุณเจอเรื่องหนักมากในช่วงนี้ คุณอยากเล่าเพิ่มเติมไหม”
ทำไมคนฟังได้ไม่ดี
1. จิตใจว้าวุ่น: คิดเรื่องอื่นขณะฟัง
วิธีป้องกัน: ฝึกสมาธิ อยู่กับปัจจุบัน และตั้งใจฟัง
2. ตัดสินผู้พูดล่วงหน้า: ฟังเพื่อหาจุดโต้แย้ง
วิธีป้องกัน: เปิดใจรับฟังโดยไม่ด่วนสรุป
3. ไม่มีการทวนความ: ขาดการยืนยันความเข้าใจ
วิธีป้องกัน: ใช้เทคนิคการสะท้อนกลับ เช่น “ที่คุณพูดหมายถึง…”
วิธีพัฒนาทักษะการฟัง
– ตั้งใจฟัง: ปล่อยวางสิ่งรบกวนสมาธิ
– ถามคำถามเพื่อความเข้าใจ: เช่น “สิ่งนี้สำคัญกับคุณอย่างไร”
– ฝึกสะท้อนกลับ: ทวนความหมายในแบบที่คุณเข้าใจ เช่น “คุณหมายถึงว่า…”
– ใช้ภาษากายที่แสดงความสนใจ: เช่น การพยักหน้า หรือสบตา
การฟังที่ดีไม่ใช่แค่การได้ยินคำพูด แต่คือการสร้างความเข้าใจและเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง เริ่มต้นพัฒนาทักษะนี้วันนี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ