ชาญชัย เคยเป็นผู้จัดการสาขา ของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง
หลายปีก่อน เขาได้รับการแต่งตั้งให้ไปเป็นผู้จัดการสาขาในต่างจังหวัด
สาขานั้นผลงานตกตํ่าและมีปัญหาหมักหมมมาก่อนที่เขาจะเข้าไป
เขาไปอยู่ได้เพียงสองสามสัปดาห์ ประธานบริหารของธนาคารได้มาตรวจเยี่ยมสาขา
พร้อมทีมผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นภารกิจปกติอยู่แล้ว
ชาญชัยนำเสนอผลงานของสาขาให้ท่านและทีมงาน
เนื่องจากผลงานสาขาที่ตกตํ่าอย่างที่ว่า
สีหน้าท่าทางและนํ้าเสียงของเขาจึงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
โชคดีที่ทีม ผู้บริหารมิได้ไล่ต้อนซักถามรุนแรงเกี่ยวกับผลงานที่ไม่ดีของสาขา
ที่จริงแล้วตรงกันข้ามด้วยซํ้าไป
สองวันต่อมาเขาได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจ่าหน้าโดยตรงมาที่เขา
โดยชื่อผู้ส่งคือประธานบริหาร
เขายังจำได้แม่นยำถึงประโยคเริ่มต้นของจดหมายใจความว่า
“คุณชาญชัย ผมทราบดีว่าภารกิจที่คุณได้รับมอบหมายนั้นเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก
สาขาของคุณมีปัญหาหมักหมมมาก่อนหน้าที่คุณจะได้เข้ามาบริหาร
คุณและทีมงานต้องบากบั่นและมุมานะเพื่อหาหนทางบริหารจัดการต่อไป
ผมมีความเชื่อมั่นว่า ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของคุณและทีมงาน
หากทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน
ขึ้นอยู่กับว่าจะดำเนินการได้ลุล่วงภายในเวลาช้าหรือเร็วเท่านั้น…”
เนื้อความในจดหมายเปี่ยมด้วยความเมตตาและการให้กำลังใจ
จดหมายฉบับนั้นมาถูกที่ถูกเวลา
เขากำลังจะถอดใจและเกือบยอมแพ้กับปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
แต่หลังจากเขาได้อ่านข้อความที่ท่านประธานฯ เขียนมา
ก็เกิดกำลังใจขึ้นอย่างมาก
เขาแชร์ข้อมูลนั้นให้เพื่อนพนักงานในสาขาอ่าน เขาบอกทีมงานว่า
“ท่านมิได้รู้จักผมเป็นการส่วนตัว แต่ด้วยความเมตตาที่ท่านมีต่อผมและเพื่อนพนักงานนั้น
มันสุดที่จะบรรยายเป็นคำพูดได้ ผมขอความร่วมมือจากเราทุกคน
ขอให้ทุ่มเทกำลังสุดความสามารถ
เพื่อเป็นการตอบแทนความเมตตาของผู้ใหญ่ที่มีต่อเรา”
สิ้นปีนั้น สาขาเขาก็พลิกผันอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยพลังกายและพลังใจของทีมงานในสาขา
ทำให้ได้รับรางวัลสาขาดีเด่น ซึ่งนำความแปลกใจมาสู่ผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานจำนวนมาก
เพราะสาขามีผลงานที่ตกตํ่ามาก่อนถึงสามปีก่อนหน้านั้น
เมื่อเพื่อนผจก.สาขาอื่น ถามชาญชัยด้วยความสงสัยว่า เขาทำอย่างไร
คุณชาญชัยตอบไปว่า “การมาเยี่ยมในครั้งนั้นและจดหมายมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงที่สาขาอย่างมาก
ผมเป็นหนี้ท่านประธานฯ มาก กำลังใจที่ท่านมีเมตตาต่อผมนั้น มีมากกว่าผลงานของสาขาในปีนั้นเท่านั้น
เมื่อใดก็ตามที่ผมรู้สึกท้อแท้ หรือกำลังใจถดถอยเนื่องจากปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ผมมักจะระลึกถึงถ้อยคำในจดหมายนั้นเสมอ มันทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิม และมีพลังต่อสู้ฟันฝ่ามาได้ทุกครั้ง ผมต้องบอกว่าที่ผมประสบความสำเร็จมาได้ทุกวันนี้ เพราะความเมตตาในครั้งนั้น
สงกรานต์ทุกปีผมจะไปรดนํ้าและขอพรจากท่าน ด้วยความกตัญญู ผมอธิษฐาน ให้ท่านมีความสุขตลอดไปอยู่เสมอ ท่านเองอาจจะไม่ทราบเลยว่า จดหมายฉบับนั้น สร้างผลทางธุรกิจให้ธนาคารเราอย่างมาก อีกทั้งได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผมให้เข้มแข็งมา จนทุกวันนี้”