กลยุทธ์ก้าวหน้าในงานด้วยเวลาอันสั้น

เนื้อหาได้รับความช่วยเหลือจาก Chat GPT 4.0 ในการรวบรวมข้อมูล (26 พ.ย. 2567)

การทำงานตามมอบหมายอย่างเดียวไม่เพียงพอในยุคปัจจุบันที่การแข่งขันในที่ทำงานเข้มข้นมากขึ้น หากคุณต้องการโดดเด่นและก้าวหน้าในสายอาชีพ คุณต้องมีความแตกต่างและสามารถสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้อย่างชัดเจน

หนึ่งในกลยุทธ์ที่สามารถช่วยให้คุณก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วคือการแบ่งเวลาให้เหมาะสม โดยใช้ 80% ของเวลาในการทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ 20% ที่เหลือในการสร้างสรรค์งานที่มี Impact หรือผลงานที่ส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อองค์กร

งานที่มี Impact ควรมีลักษณะอย่างไร

1. สอดคล้องกับ Quickwin ขององค์กร

   – งานที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่รวดเร็วและช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายระยะสั้นได้ ตัวอย่างเช่น การปรับปรุงกระบวนการทำงานที่ลดเวลาในการผลิตลง 20% ภายใน 1 เดือน ส่งผลให้ทีมสามารถรับงานเพิ่มขึ้นได้ทันที

2. แก้ปัญหา Painpoint สำคัญขององค์กร

   – ค้นหาปัญหาที่สร้างความลำบากใจหรืออุปสรรคใหญ่ในองค์กร และคิดวิธีแก้ไข ตัวอย่างเช่น การออกแบบ Dashboard เพื่อช่วยฝ่ายการเงินวิเคราะห์ข้อมูลได้แม่นยำขึ้น ลดเวลาทำงานจาก 3 วันเหลือเพียง 1 วัน

3. สร้างกำไรในเวลาอันสั้น

   – ผลงานที่ช่วยเพิ่มรายได้หรือประหยัดต้นทุนให้กับองค์กร ตัวอย่างเช่น การคิดโปรโมชั่นพิเศษที่กระตุ้นยอดขายจนเพิ่มขึ้น 30% ในไตรมาสที่สอง

4. ทำให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ

   – งานที่เน้นการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า ตัวอย่างเช่น การออกแบบคู่มือการใช้งานสินค้าที่เข้าใจง่าย ส่งผลให้จำนวนคำร้องเรียนลดลง 50% และลดต้นทุนการให้บริการลูกค้าหลังการขาย

5. ทำให้คุณภาพสินค้า/บริการโดดเด่นแตกต่าง

   – การพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เหนือกว่าคู่แข่ง ตัวอย่างเช่น การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ช่วยให้สินค้าเป็นที่จดจำมากขึ้น

6. สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กรระยะยาว

   – งานที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายระยะยาวขององค์กร ตัวอย่างเช่น การพัฒนาระบบการเรียนรู้สำหรับพนักงานที่ช่วยสร้างทักษะที่จำเป็นในอนาคต และลดความจำเป็นในการจ้างงานจากภายนอก

วิธีเริ่มต้นสร้างงานที่มี Impact

1. ศึกษาเป้าหมายและปัญหาขององค์กรอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้คุณสามารถเลือกงานที่ตอบโจทย์ได้

2. สื่อสารไอเดียและขอคำปรึกษาจากหัวหน้างานหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจ

3. วางแผนการดำเนินงานอย่างรัดกุม และประเมินผลกระทบของงานที่คุณตั้งใจจะทำ

4. ลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น และสื่อสารผลลัพธ์ให้องค์กรรับรู้

การสร้างงานที่มี Impact ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณโดดเด่นในสายตาขององค์กร แต่ยังช่วยให้คุณสร้างคุณค่าในสายอาชีพของคุณอย่างยั่งยืนอีกด้วย