“คุณเกรียงศักดิ์ คุณคิดว่าผมควรเตรียมอะไรบ้างสำหรับปีนี้” คุณพันธ์ศักดิ์ ซีอีโอขององค์กรที่ประสบความสำเร็จ เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ เตรียมความพร้อมให้แก่ทีมในเชิงรุกเพื่อรับมือกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง
“คุณพันธ์ศักดิ์ ปกติแล้วปัจจัยที่มีผลกระทบธุรกิจของคุณมีอะไรบ้าง”
“เศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และการเมืองในประเทศ”
“แนวโน้มของแต่ละปัจจัยในปีนี้จะเป็นอย่างไรบ้างครับ”
“เศรษฐกิจโลกนั้นคาดเดายาก แต่รายงานของ msnbc.com ประมาณการการขยายตัวว่าลดลงไปที่ 3.1% จาก 3.6% ในปี 2553 สำหรับอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันนั้นอยู่ในขาขึ้น ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้น
โดยรวมแล้วธุรกิจของผมเผชิญความท้าทายมากขึ้น”
“ช่วยขยายความหน่อยได้มั๊ยครับ”
“การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น สงครามราคานั้นเลี่ยงไม่ได้ ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า และสัดส่วนกำไรที่น้อยลง”
“คุณพันธ์ศักดิ์ ปัจจัยเหล่านี้นั้นเลี่ยงไม่ได้ แล้วปัจจัยใดบ้างที่คุณสามารถควบคุมได้”
“สิ่งที่ผมสามารถควบคุมได้คือซีอีโอ
“ดูเหมือนคุณทราบดีอยู่แล้วในสิ่งที่ตนทำอยู่แต่ก็ยังกังวลอยู่บ้างใช่ไหมครับ”
“เรื่องพนักงานนะซี เนื่องจากองค์กรเราใหญ่และมั่นคง พนักงานส่วนใหญ่ติดกับดักความสบาย”
“แล้วคุณจะทำอย่างไร”
“ผมก็ไม่ทราบ”
“เป็นคำตอบที่ดีครับ ผมดีใจที่คุณตอบว่า ไม่ทราบ”
คุณพันธ์ศักดิ์ถามกลับด้วยความประหลาดใจ “เพราะอะไรครับ”
“เพราะเมื่อผู้นำพูดว่า ‘ผมไม่รู้’ เขาจะค้นหาคำตอบ แต่ถ้าคุณบอกว่า คุณทราบแล้วว่าต้องทำอะไร ก็เท่ากับว่าได้ตัดสินใจเลือกการลงมือทำแล้ว เมื่อความกังวลของคุณอยู่ที่มุมมองของพนักงาน คุณอาจพลาดหากคิดว่าตนเองทราบทางแก้ปัญหา”
“แล้วผมควรทำอย่างไรครับ”
“ถ้าคุณไม่ทราบ คุณคิดว่าใครจะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำทางออกกับคุณได้บ้าง”
“ผู้จัดการฝ่ายของผม พวกเขาใกล้ชิดกับพนักงานมากกว่าผม”
“เป็นความคิดที่ดี แล้วคุณวางแผนว่าจะทำอย่างไรเมื่อคุณทราบว่าจะต้องคุยกับใครแล้ว”
“ผมจะเรียกประชุม เพื่อสื่อสารปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นให้พวกเขาทราบ จากนั้นจะสนับสนุนให้พวกเขาหาแนวทางในเชิงปฏิบัติ
แต่ผมเกรงว่าผมอาจจะอดไม่ได้ที่จะชี้นำการประชุมเหมือนที่ผ่านมา”
“ผมขอชื่นชมที่คุณตระหนักถึงปัญหาด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก”
“ผมคงแจ้งให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจเพื่อให้พวกเขาคิดหาทางออก ผมจะทำตัวเป็นแบบอย่างการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยเปลี่ยนวิธีการดำเนินการประชุมให้มีการระดมความคิดมากขึ้น
จากนั้นให้พวกเขาเลือกประธานในที่ประชุม แล้วผมจะทำหน้าที่สังเกตการณ์เท่านั้น”
“เป็นความคิดที่ดี”
“แล้วถ้าพวกเขาเสนอความคิดที่ผมคิดว่าไม่เหมาะสมล่ะครับ”
“ผอ.ฝ่าย ฯ ของคุณมีกันกี่คน และคุณเชื่อมั่นในตัวพวกเขาในระดับใด”
“6 คนครับ ปกติแล้วพวกเขาไว้ใจได้ทีเดียว”
“ระดับความใว้วางใจที่คุณมีต่อการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ของพวกเขาอยู่ที่เท่าไหร่”
“8 ใน 10 เรื่องการตัดสินใจของพวกเขานับว่าดี ส่วนที่เหลือนั้นปานกลาง”
“แล้วพวกเขาใว้ใจการตัดสินใจของคุณมากแค่ใหน”
“ผมคิดว่าพวกเขาเชื่อใจผม 100%”
“คุณแน่ใจมากขนาดนี้เชียวหรือ”
“เพราะพวกเขาเห็นแบบแผนจากการทำงานร่วมกับผมในช่วงสองปีที่ผ่านมา อีกอย่างผมรู้ว่าความสัมพันธ์ในที่ทำงานของเราดีมาก”
“กลับมาที่คำถามของคุณที่ว่า ถ้าพวกเขาเสนอความคิดที่คุณคิดว่าไม่เหมาะสม แสดงว่าคุณกำลังพูดถึง 20% ของการตัดสินใจที่อาจไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริงใช่ใหมครับ”
“ใช่ครับ”
“แล้วคุณคิดว่าอย่างไรครับ” ผมถามกลับแทนที่จะให้คำตอบเพื่อให้เขาได้หาคำตอบด้วยตนเอง
“ผมคิดว่าผมต้องแยกแยะการตัดสินใจของพวกเขา ผมสามารถชมเชยสำหรับการตัดสินใจดี ๆ ส่วนใหญ่ของพวกเขา และสำหรับการตัดสินใจปานกลางของพวกเขา ผมก็จะให้คำแนะนำเพิ่มเติม”
“ฟังดูดีมากครับ ลองทำในสิ่งที่เราพูดคุยกันในวันนี้ แล้วมาติดตามผลกันในสัปดาห์หน้า”