หลังจากสื่อสารเป้าหมายของงานในตำแหน่งพนักงานขับรถโฟล์คลิฟท์ให้กับวิชัยตั้งแต่ต้นปีไปแล้ว สมชายตระหนักดีว่าหน้าที่ของหัวหน้างานที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การสังเกต ติดตาม และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ พฤติกรรม ขั้นตอน วิธีการทำงาน ผลการปฏิบัติงาน ของวิชัยและพนักงานอื่น ๆ เป็นประจำ เมื่อเห็นว่ามีสิ่งใดที่ดีก็จะชมเชย และหากมีส่วนใดที่บกพร่องก็จะบอกกับพนักงานของเขา ให้ลงมือแก้ไขทันทีโดยไม่ต้องรอให้ถึงเวลาประเมินผลงานในปลายปี
เมื่อครบหกเดือน เขาก็พูดคุยกับพนักงาน ถึงผลงานหกเดือนอย่างไม่เป็นทางการ โดยนำเป้าหมายของแผนงานของแต่ละคนมาเปรียบเทียบกับผลงานจริง
เมื่อถึงปลายปี สมชายจึงนัดหมายพนักงานแต่ละคนประเมินผลงาน วิชัยเป็นคนแรก เมื่อถึงเวลา วิชัยจึงแวะมาพบ สมชายเชิญนั่งพร้อมทั้งชวนคุยแบบกันเอง “เป็นไงบ้างปีใหม่ปีนี้จะกลับบ้านไปเยี่ยมญาติที่ขอนแก่นเหมือนทุกปีหรือเปล่า” วิชัยตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “แหม ก็เหมือนเดิมครับพี่ พาเด็ก ๆ ไปเยี่ยมตายายครับ พี่ก็อย่าทำงานเพลินนะครับ พักบ้าง”
สมชายชวนคุยวิสาสะสองสามนาที พอสังเกตเห็นว่าวิชัยไม่มีท่าทีประหม่าหรือกังวลใจอะไร จึงเริ่มเข้าเรื่อง “อย่างที่เราคุยกันตั้งแต่ต้นปีแล้วละนะว่า วิชัยมีเป้าหมายในการทำงานอะไรบ้าง ตอนกลางปีเราก็มีการทบทวนกันไปแล้ว วันนี้เราจะมาพูดคุยสรุปผลงานทั้งปีกัน
ผมจะแบ่งการพูดคุยกันเป็นสี่ส่วน โดยเริ่มตั้งแต่เปรียบเทียบผลงานกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนต้นปี หลังจากนั้นเราจะมาดูกันว่า สิ่งที่เป็นจุดเด่นของวิชัยมีอะไรบ้าง โดยพิจารณาจาก พฤติกรรม ขั้นตอน วิธีการการทำงาน และผลการปฏิบัติงาน เมื่อทราบจุดเด่นแล้วเราจะมาคุยกันถึงสิ่งที่วิชัยควรปรับปรุง และแผนการพัฒนาสิ่งต่างๆเหล่านั้น สุดท้ายเราก็จะพูดคุยกันถึงโอกาสความก้าวหน้า รวมทั้งแผนการพัฒนาศักยภาพของวิชัย
รูปแบบที่เราจะพูดคุยกัน ขอให้เป็นกันเอง โดยวิชัยมีส่วนร่วมเต็มที่ไม่ใช่ผมพูดเพียงฝ่ายเดียว เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมง่ายขึ้น ผมจะใช้คำถามเพื่อให้วิชัยเป็นผู้ค้นพบคำตอบด้วยตัวเอง วิธีนี้วิชัยอาจจะไม่คุ้น แต่ก็ไม่ต้องวิตกอะไรหรอก มันเป็นวิธีที่ทำให้การพูดคุยเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์โดยเราทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมคิดร่วมคุยกัน เราคงใช้เวลาซักสามสิบถึงสี่สิบห้านาทีแหละ วิชัยคิดว่าไงละ”
วิชัยตอบด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายว่า “โอเคครับ”
สมชายจึงเริ่มด้วยการเปรียบเทียบผลงานกับเป้าหมายโดยเริ่มที่หัวข้อเรื่องอุบัติเหตุในงานก่อน “เป้าหมายแรกคืออุบัติเหตุในการขับรถโฟล์คลิฟท์ในโรงงาน เราร่วมกันวางแผนเมื่อต้นปีว่าจะต้องไม่เกิดเลย จากรายงาน จป. 1 ทราบไหมว่าปีนี้ขับรถทำให้เกิดอุบัติเหตุกี่ครั้ง”
วิชัยตอบด้วยเสียงหนักแน่นว่า “”ไม่มีเลยครับ ในปีนี้ ผมระมัดระวังมาก เพราะว่าจากปีที่แล้วที่ผมเคยเผลอเกิดไปครั้งหนึ่ง ถึงแม้คราวนั้นจะไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ลูกสาวผมบอกไว้เลยว่าอยากให้พ่อระวังให้มาก”
สมชายกล่าวชมว่า “ดีมากวิชัย ปีนี้มีคุณคนเดียวที่ไม่มีอุบัติเหตุเลย ในข้อนี้คุณได้เกณฑ์ดีมาก แล้วเรื่องของเสียหายชำรุดละ เป้าหมายคือไม่เกิน 2,000 บาท จากรายงานพัสดุ ปีนี้วิชัยทำให้สินค้าเสียหายไปกี่ตังค์”
วิชัยเสียงอ่อยลงหน่อย “2,500 บาทครับเกินเป้าไป 500 บาทครับ เรื่องนี้ผมขอโทษ เพราะว่าตอนวันสิ้นเดือนกันยายน ผมเห็นรถสิบล้อมาคอยนานแล้วเลยเร่งรีบขน ทำให้สินค้าบางส่วนชำรุดขึ้นมาถึง 2,500 บาทครับ ข้อนี้ผมควรได้ต่ำกว่ามาตรฐานครับ”
สมชายประเมินไปทีละข้อจนครบเป้าหมายหลักห้าข้อ เนื่องจากวิชัยเป็นคนที่คิดไม่เร็ว สมชายพยายามใช้ภาษาง่าย ๆ และพูดในจังหวะจะโคนที่ช้าเหมือนกับวิชัย แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วสมชายจะเป็นคนพูดไวและคิดไวก็ตาม
“เอาละ คราวนี้เรามาถึงส่วนที่สองคือเรื่องจุดเด่นของวิชัย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว วิชัยยังมีความรับผิดชอบสูง คือเมื่อเกิดปัญหาในงานขึ้นคุณจะรีบมารายงานให้พี่ทราบโดยเร็วพร้อมทั้งมีทางแก้มาเสนอด้วยเสมอ ยกตัวอย่างกรณีสิ้นเดือนกันยายน ที่วิชัยทำของเสียหายไปสองพันห้าร้อยบาท คุณก็รีบบอกลูกค้าว่าจะจัดการส่งสินค้าชดเชยให้ในอีกสองวันแทนที่จะรอตามรอบการส่งปกติคือสองสัปดาห์ โดยประสานงานกับรถจัดส่งเป็นกรณีพิเศษ พี่ว่าลูกค้าเขารับได้ว่าเราทำความเสียหายแล้วแสดงความรับผิดชอบ เรื่องนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการแก้ปัญหา อีกเรื่องคือเรื่องของการขาด สาย ลา ป่วย นั้น วิชัยไม่มีเลย โรงงานเราเร่งผลิตมากในปีที่ผ่านมา หากใครซักคนหยุดไปหลาย ๆ วัน จะทำให้เพื่อนรับโหลดงานมาก เรื่องนี้พี่ขอบคุณแทนเพื่อน ๆ คนอื่นด้วย”
วิชัย ยิ้มแก้มปริ “ขอบคุณครับพี่ แล้วมีส่วนไหนที่ผมควรปรับปรุงบ้างละครับ”
สมชายกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงปกติ “เรามาคุยส่วนที่สามกัน ไม่มีใคร Perfect ทุกคนมีจุดที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เรื่องของการเก็บรักษาเครื่องมือในการบำรุงรักษารถโฟล์คลิฟท์ พอจำได้ไหม่ว่าเกิดอะไรขึ้น”
วิชัยยิ้มเจื่อน ๆ พร้อมกับพูดว่า “พอจำได้ครับ ผมรีบกลับบ้านไปหน่อยเลยลืมเก็บอุปกรณ์ชุดบำรุงรักษา”
สมชายจึงถามนำต่อ “เราพอจำได้ไหมว่าปีนี้เราลืมเก็บไปกี่ครั้งนะ”
วิชัยตอบอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ว่า “สองหรือสามครั้งนะครับ”
สมชายจึงนำรายงานของรปภ.ขึ้นมา พร้อมกับอ่านให้ฟัง “สามครั้งในเดือนกรกฏาคม และหนึ่งครั้งในเดือนกันยายน วิชัยคิดว่าจะแก้ไขอย่างไร”
วิชัยนั่งคิดสักครู่ก่อนตอบว่า “ผมจะพยายามตั้งสติหน่อยครับ เอ่อ… ผมจะทำ Sticker ตัวโตติดไว้ที่แขวนกุญแจรถโฟล์คลิฟท์ของผมว่า เก็บกล่องเครื่องมือแล้วหรือยัง ผมว่าปัญหานี้น่าจะหมดไปได้ครับ”
สมชายพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้อีกเดือนหนึ่งเรามาดูผลความคืบหน้าในเรื่องนี้กัน สำหัรบเรื่องความก้าวหน้าในการทำงานที่บริษัทของเรา อย่างที่วิชัยรู้ว่า เรามีการนำระบบการวัดค่างานมาใช้ ทุกปีบริษัทจะปรับฐานเงินเดือนของพนักงานตามค่าของงาน และผลของงาน วิชัยมองอนาคตของตัวเองกับบริษัทเราว่าอย่างไร”
วิชัยตอบว่า “ผมพยายามทำให้ดีที่สุดครับ เรื่องอนาคตไม่ค่อยคิดมาก ผมอายุสี่สิบแล้ว ก็อยากเกษียณที่นี่แหละครับ”
สมชายจึงกล่าวต่อ “วิชัย งานที่เราทำเนี่ย เรื่องของร่างกายก็มีผลต่อหน้าที่ ผมแนะนำว่าคุณอาจจะทำหน้าที่ขับรถโฟล์คลิฟท์อีกสักสองสามปี แล้วหาทางขยับขยายไปทำงานหน้าที่อื่น ซึ่งไม่ว่างานตำแหน่งอะไรในโรงงาน พนักงานต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นสองสามข้อคือ การใช้คอมพิวเตร์ ภาษาอังกฤษ และทักษะการสื่อสาร ผมอยากให้ในปีนี้คุณลองหาทางเรียนรู้ทักษะคอมพิวเตอร์เบื้องต้นหน่อย ฝ่ายฝึกอบรมเขามีการจัดอบรมเป็นระยะ ๆ ผมจะใส่รายชื่อคุณเข้าไป วิชัยคิดว่าอย่างไร”
วิชัยยกมือไหว้ “ขอบคุณครับพี่ ที่ช่วยมองอนาคตให้ผมไว้ด้วย”