รับมือกับการเมืองในที่ทำงาน

“โค้ชเกรียงศักดิ์คะ ดิฉันจะหลีกเลี่ยงการเมืองในที่ทำงานอย่างไรดีคะ”

“คุณประนอม ขยายความหน่อยครับ”

“ผู้อำนวยการท่านใหม่ระดับเดียวกันกับดิฉันเล่นงานดิฉันทั้งในที่ประชุมและลับหลังค่ะ ไม่ชอบวิธีแบบนี้เลย ไม่รู้ว่าควรรับมือกับเธออย่างไรดี”

“เล่นงาน หมายความว่าอย่างไรครับ”

“แผนกของเธอเป็นลูกค้าภายในรายใหญ่ของแผนกดิฉัน ผู้อำนวยการท่านก่อนเป็นคนอ่อนโยน เขาจะโอนอ่อนเมื่อดิฉันไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามที่ตกลงกันใว้ แต่ผู้อำนวยการท่านใหม่ เธอไม่เคยผ่อนผันเลย ถ้าดิฉันไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามที่กำหนด แม้จะเป็นงานชิ้นเล็กๆ เธอจะรายงานในที่ประชุมทีมบริหารทันที ทำให้ดิฉันดูไม่ดีเลยค่ะ”

“ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรครับ”

“หัวเสียมากค่ะ” แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้

“ขอโทษนะคะโค้ช”

“คุณประนอม ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ การร้องไห้ไม่ใช่เรื่องแปลก มันเป็นกลไกตามธรรมชาติเพื่อปลดปล่อยความเครียด”

ผมเตรียมไอเดียที่จะคุยกับเธอในใจระหว่างที่เธอกำลังร้องไห้

“รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ” เธอยิ้ม

“เราจะกลับมาคุยเรื่องนี้กันทีหลัง ตอนนี้เราเปลี่ยนมาคุยกันเรื่องดีๆ เชิงบวกซักครู่นะครับ  ลองเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับความสำเร็จที่คุณมีเมื่อไม่นานมานี้สิครับ”

“ค่ะโค้ช แผนกของดิฉันเพิ่งประสบความสำเร็จในการลงโปรแกรม Enterprise Resource Planning เวอร์ชั่นใหม่ในคอลเซ็นเตอร์ค่ะ เราเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ทำได้ตามกำหนดเวลา ตอนนี้ประเทศอื่นยังล้มลุกกันอยู่เลยค่ะ”

“คุณทำได้อย่างไรครับ”

เธออธิบายอย่างกระตือรือร้น ตาเป็นประกายเมื่อได้พูดถึงจุดแข็งของตนเองในการบริหารงานโครงการ

เมื่อเธอเล่าจบ ผมพูดว่า  “ยินดีด้วยนะครับ ผลงานยอดเยี่ยมจริงๆ  อย่างไรก็ตามไม่มีใครในโลกที่สมบูรณ์แบบ คุณเก่งในเรื่องต่างๆมากมาย แต่การเมืองในที่ทำงานอาจไม่ใช่จุดแข็งของคุณ”

เธอพยักหน้า ขณะนี้เธอมีความเชื่อมั่นในตนเองมากกว่าตอนเริ่มคุยกันช่วงแรก

“สิ่งที่ผมจะบอกกับคุณตอนนี้อาจฟังดูรุนแรง จึงอยากให้คุณตั้งตัวก่อนจะได้ไม่นำไปคิดเป็นเรื่องส่วนตัวหรือพยายามตั้งการ์ดปกป้องตัวเอง” ผมต้องการให้เธอตระหนักก่อน ไม่เช่นนั้นเธออาจตอบสนองโดยใช้สัญชาตญาณในทันที

เธอรับคำ

“ผมได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ Secrets of a CEO coach โดย D.A. Benton

จึงเกิดไอเดียเกี่ยวกับทิปส์ง่ายๆสำหรับการรับมือการเมืองในที่ทำงาน เรียกว่า ABC

A – Accept หมายถึงมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการเมืองในที่ทำงาน ผู้เขียนบอกว่า “เมื่อใดก็ตามที่มีคนมากกว่าสองคนขึ้นไปก็จะมีการเมืองมาเกี่ยวข้องเสมอ” เราจึงควรยอมรับเสีย

B – Be good at your job หมายถึง ทำงานของตนเองให้ดีที่สุด เพราะการเมืองในที่ทำงานเป็นเรื่องที่เลี่ยงกันไม่ได้ เราจึงถูกตำหนิทุกครั้งที่ทำผิดพลาด ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือทำทุกอย่างให้ถูกต้อง  อย่าทำเพียงแค่ได้มาตราฐาน แต่ทำให้เป็นเลิศ การทำแบบนี้ก็จะไม่มีใครสามารถโจมตีจุดอ่อนของคุณได้

C – Confront หมายถึงเผชิญหน้ากับคนที่โจมตีคุณก่อน ถ้าคุณโอนอ่อนก็เท่ากับว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นเดียวกัน”

“เข้าใจแล้วค่ะโค้ช แต่มันเป็นเรื่องยากสำหรับดิฉันที่จะเผชิญหน้าค่ะ”

“เสียงในหัวของคุณบอกคุณว่าอย่างไรเมื่อคุณต้องการจะเผชิญหน้ากับผู้อื่น”

“มันเป็นการไม่สุภาพค่ะ”

“เพราะอะไรครับ”

“ตอนที่ดิฉันเป็นเด็กแล้วทะเลาะกับพี่ชาย แม่พูดเสมอว่ามันไม่สุภาพเลยที่จะมีปากเสียงกับผู้อื่น”

“เพราะอะไรคุณแม่ของคุณจึงสอนอย่างนั้นครับ”

“ไม่ทราบสิคะ”

“ลองเดาสิครับ”

“เธออาจมองว่าเป็นสิ่งดีกับตัวดิฉันเอง ถ้าดิฉันโตขึ้นมาเป็นคนที่ก้าวร้าวคงจะหาสามีไม่ได้”

“คุณคิดว่าสิ่งที่คุณแม่สอนนั้นถูกต้องเสมอหรือไม่ครับ”

“มันสมเหตุสมผลในขณะนั้นค่ะ”

“ผมขอแชร์เรื่องราวของพระในนิกายเซนนะครับ

นักบวชสองรูปกำลังเดินทางกลับอารามในตอนพลบค่ำ เนื่องจากมีฝนตกก่อนหน้านี้ทำให้มีแอ่งน้ำบนถนนมากมายทำให้หญิงนางหนึ่งไม่สามารถเดินข้ามไปได้ นักบวชที่มีอายุมากกว่าจึงอุ้มเธอข้ามไปที่อีกฝั่งของแอ่งน้ำแล้ววางเธอลง จากนั้นนักบวชทั้งสองเดินทางต่อไปจนถึงอารามของตน

ในค่ำคืนนั้นนักบวชอายุน้อยเดินมาหานักบวชรุ่นพี่แล้วพูดว่า “เราเป็นนักบวช ไม่ควรต้องตัวสตรีมิใช่หรือ” นักบวชรุ่นพี่ตอบว่า “ถูกต้อง” นักบวชรุ่นน้องถามต่อในทันที “แล้วท่านอุ้มสตรีนางนั้นได้อย่างไรกัน” นักบวชรุ่นพี่ยิ้มแล้วตอบไปว่า “เราอุ้มเธอข้ามแอ่งน้ำแล้วก็วางเธอใว้ที่นั่น แต่เจ้าสิ ยังคงอุ้มเธอกลับมาที่อารามนี้ด้วย”

คุณประนอม คุณได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้างครับ”

“ดิฉันต้องปลดปล่อยสิ่งต่างๆในอดีต คำสอนบางอย่างของแม่อาจไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในที่ทำงาน ดิฉันควรที่จะสามารถโต้แย้งกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างสร้างสรรค์และหนักแน่นค่ะ”