โค้ชเลขาซีอีโอ

บทความโดย: โค้ชเกรียงศักดิ์ นิรัติพัฒนะศัย
ภาพ: Rodnae Production

ขนุนเป็นเลขาของคุณสมบัติ ซึ่งเป็นซีอีโอ ขณะที่ผมกำลังรอโค้ชคุณสมบัติ ขนุนเดินเข้ามาคุยกับผม

“โค้ชเกรียงศักดิ์คะ คุณสมบัติยังติดประชุมทางวิดีทัศน์ต่างประเทศกับลูกค้าอยู่เลยค่ะ เธอบอกให้ขนุนช่วยกล่าวขอโทษที่เธอจะมาสายสัก 10 นาทีค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับคุณขนุน”

“โค้ชคะ ระหว่างรอ ช่วยโค้ชขนุนในเรื่องความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ หน่อยได้มั๊ยคะ”

“ได้สิครับ เกี่ยวกับเรื่องอะไรครับ”

“ขนุนโกรธนายทุกครั้งที่เธอสั่งงานเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกกับขนุนค่ะ”

“คุณรู้สึกอย่างนี้ก้บทุกคนหรือเฉพาะกับคุณสมบัติ”

“ทุกคนค่ะโค้ช แต่เธอเป็นนายโดยตรง ขนุนจึงประสบเหตุการณ์นี้กับนายบ่อยที่สุด”

“โอเคครับ เพราะอะไรคุณถึงโมโห”

“ขนุนไม่ทราบค่ะ”

“ใหนลองเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งล่าสุดให้ผมฟังหน่อยครับ”

“ได้ค่ะ เมื่อเช้านี้นายสั่งให้ขนุนเตรียมเอกสารสำหรับการนำเสนอพรุ่งนี้ จากนั้นอีกสามสิบนาทีก็ออกมาสั่งเรื่องเดิมอีก พอนายออกมารอบสองก็หงุดหงิดทันที แต่ขนุนไม่ได้แสดงอาการ หรือสีหน้านะคะ เพียงรู้สึกโกรธอยู่ลึกๆ โกรธทั้งนายทั้งตัวเอง ขนุนก็ไม่อยากเก็บกดอารมณ์เอาใว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี”

ผมพยักหน้า “ผมพอจะจินตนาการออกว่าคุณรู้สึกอย่างไร เสียงในหัวของคุณบอกคุณว่าอะไรขณะที่กำลังโกรธครับ”

“ในหัวขนุนพูดว่า รู้แล้วค่ะนาย ไม่ต้องห่วง ขนุนไม่ใช่เด็กๆแล้วค่ะ”

“เพราะอะไรคุณถึงพูดกับตัวเองแบบนี้ครับ”

“ไม่ทราบสิคะ”

“ผมจะลองให้ตัวอย่างนะครับ

หลายปีก่อน ผมจัดโค้ชชิ่งกลุ่มให้กับองค์กรหนึ่งที่เขาใหญ่ ในคืนแรกนั้นมีการจัดปาร์ตี้ เนื่องจากซีอีโอชอบร้องคาราโอเกะมาก จึงมีการจัดคาราโอเกะด้วย พิธีกรในงานเชิญให้ทุกๆคนขึ้นไปร้องเพลง เมื่อเธอมาเชิญผม ผมบอกว่าผมไม่ต้องการร้องเพราะผมร้องเพลงไม่เก่ง

เธอจึงวนไปเชิญท่านอื่น มีหลายท่านที่ตกลงขึ้นไปร้อง 15 นาทีให้หลังเธอวนกลับมาที่ผมอีกครั้ง แล้วบอกว่า “ร้องสนุกๆค่ะโค้ช”

เมื่อเธอยืนกรานจะให้ผมร้องเพลง ผมหงุดหงิดมาก จึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงโกรธไปว่า ผมบอกแล้วว่าผมไม่ร้อง ถ้าคุณยังคะยั้นคะยอผมอีก ผมจะขึ้นไปด่าคุณบนเวที

ทุกๆคนรวมถึงซีอีโอตกใจกับเหตุการณ์นี้มาก โชคดีที่มีคนขึ้นไปร้องเพลงเพื่อดึงความสนใจไปเสียก่อน

คืนนั้น ผมกลับไปที่ห้องพัก รู้สึกผิดมากกับพฤติกรรมของตนเองเพราะไม่สุภาพอย่างมาก

ผมจึงพยายามทำความเข้าใจตนเองว่าเพราะอะไร

หลังจากนั่งสะท้อนความคิด จึงรู้ว่าค่านิยมเรื่อง ความอิสระ ของตนถูกท้าทาย

แล้วทำไมผมจึงให้ความสำคัญกับ ความอิสระ มากขนาดนี้

นึกย้อนกลับไปถึงวัยเด็ก ตอนผมสิบขวบ ผมพาน้องชายไปเล่นบาสเก็ตบอล กลับถึงบ้านประมาณสามทุ่ม พ่อผมโกรธมากเพราะท่านไม่ต้องการให้กลับบ้านหลังสองทุ่ม

ผมถูกลงโทษ ตีโดยใช้ไม้แบตมินตัน ไม่ได้เจ็บตัวมากมายแต่เจ็บในใจมากกว่า จากนั้นผมก็สัญญากับตัวเองว่า จะไม่พึ่งพาใครอีก

เมื่อผมตระหนักได้เช่นนั้น คราวนี้ผมก็สามารถความคุมอารมณ์ของตนเองได้ เมื่อใดก็ตามที่ค่านิยมเรื่อง ความอิสระ ของผมถูกท้าทาย

คุณพอจะนึกออกมั๊ยว่าในกรณีของคุณน่าจะเป็นเหตุการณ์ใด”

เธอคิดสักครู่  “อะฮ้า โค้ชคะ เกี่ยวกับป้าของขนุนเองค่ะ ขนุนเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาเรียนในกรุงเทพตอนอายุ 18 อาศัยอยู่กับป้าทั้งหมด 4 ปี เธอบ่นนู่นนี่ เล็กๆน้อยๆไปซะทุกเรื่องตลอดเวลา เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอสั่งอะไรขนุนซ้ำเป็นรอบที่สองขนุนจะหงุดหงิดมาก เพราะเธอจะพูดว่า ขนุนเธออายุ 18 แล้วนะ ไม่ใช่ 5 ขวบ เธอต้องรับผิดชอบตัวเองไม่ต้องให้ป้ามาพูดซ้ำๆทุกเรื่อง

จากนั้นเป็นต้นมา เมื่อไหร่ก็ตามที่นายสั่งงานซ้ำๆ เสียงในหัวจะพูดว่า รู้แล้วๆ โตแล้ว มีความรับผิดชอบ อย่าพูดกับขนุนเหมือนเป็นเด็กๆนะ”

“คุณคิดว่าค่านิยมอะไรของตนที่ถูกท้าทาย”

“คิดว่า ความรับผิดชอบนะคะ”

“เอาล่ะ เมื่อรู้ต้นเหตุแล้ว ขนุนจะทำอย่างไรกับตนเองต่อไป”

“อย่างแรก ขนุนได้ทราบแล้วว่าต้นเหตุความหงุดหงิด คับข้องใจคืออะไร สอง ขนุนจะเลี่ยงความหงุดหงิดนี้โดยบอกกับคุณสมบัติ เมื่อใดก็ตามที่ท่านสั่งงานว่า นายคะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ขนุนจะทำให้เรียนร้อยค่ะ กรุณาอย่าสั่งงานซ้ำค่ะ และสุดท้าย ถ้านายยังคงสั่งงานซ้ำๆอีก ขนุนก็จะหงุดหงิดน้อยลงเพราะขนุนสามารถเลือกที่จะมีความสุขได้แทนที่จะปล่อยให้หลงอยู่ในวังวนความโกรธของตนเอง”

“ขนุน คุณเป็นคนที่เรียนรู้เร็วมากนะ”

“ขอบคุณมากค่ะโค้ช  อุ๊ย คุณสมบัติมาพอดีเลยค่ะ”