“คุณเกรียงศักด์ ผมอ่านบล๊อกที่น่าสนใจของรอยเตอร์โดย ลูซี่ พี มาร์คัส เรื่อง “You’ve got to know when to go” เธอพูดถึงกรรมการในบอร์ดที่เป็น dead wood เธอระบุว่ามีหลายเหตุผลที่สมาชิกบอร์ดควรพิจารณาตนเองและลาออกจากบอร์ดบริษัทนั้นๆ คือ
- เป็นสมาชิกบอร์ดนี้มานานมากเกินไป
- ความรู้ความเชี่ยวชาญของตนไม่เป็นที่จำเป็นอีกต่อไป
- คุณไม่ใช้อำนาจในการผลักดันสิ่งต่างๆอย่างเหมาะสม
- คุณทำให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มสมาชิก
- การกระทำของคุณทั้งในและนอกห้องประชุมนำมาซึ่งความไข้วเขวและเสื่อมเสีย”
“คุณทนง บทความนี้น่าสนใจมาก ประเด็นที่คุณต้องการเน้นคืออะไรครับ”
“มีสมาชิกบอร์ดสองท่านที่เข้าข่ายสามข้อแรก ผมจะทำอย่างไรกับพวกเขาดีครับ”
“คุณวางแผนในใจใว้อย่างไรครับ”
“ในฐานะประธาน ผมจะไม่ใส่รายชื่อพวกเขาในการคัดเลือกกรรมการครั้งหน้า”
“สมเหตุสมผลครับ”
“แต่ผมจะบอกพวกเขาอย่างดีครับ”
“บอกความจริงสิครับ”
“ผมเกรงใจครับ ช่วงก่อตั้งบริษัทพวกเขามีบุญคุณกับผม ช่วยผมไว้มาก”
“พวกเขาอยู่ในบอร์ดมานานแค่ไหนแล้วครับ”
“สิบปีแล้วครับ”
“คุณคิดว่าระยะเวลายาวนานแค่ใหนที่เหมาะสมสำหรับการตอบแทนบุญคุณครับ”
“สิบปีก็น่าจะนานเพียงพอครับ”
“คุณกำลังกังวลใจเรื่องอะไรครับ”
“วิธีการที่ผมจะแจ้งให้พวกเขาทราบอย่างไรให้ดีที่สุดครับ”
“เราลองมาระดมความคิดว่ามีวิธีใดบ้างกันดีกว่าครับ ตอนนี้มีกี่วิธีที่คุณคิดใว้ในใจครับ”
“วิธีแรกคือ บอกตรงๆ วิธีที่สองคือ ผมขอให้สมาชิกบอร์ดที่มีอาวุโสสูงสุดบอกแทนผม”
“วิธีไหนที่คุณคิดว่าเหมาะสมที่สุดครับ”
“ผมคิดว่าวิธีที่สองครับ” คุณทนงตอบอย่างไม่มั่นใจ
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่ครับ”
“ผมรู้สึกไม่ดีนักกับวิธีที่สอง เพราะวิธีนี้อาจทำให้ทั้งสองท่านเสียความรู้สึก ว่าทำไมผมไม่มาบอกด้วยตนเอง พอคิดอีกที ผมคิดว่าผมจะเป็นคนบอกทั้งสองท่านเองครับ”
“คุณคิดว่าวิธีการพูด และโทนเสียงที่คุณจะใช้เป็นอย่างไรครับ”
“ผมคิดว่า ผมจะใช้วิธีขอคำปรึกษา โดยผมจะพบกับทีละท่าน”
“ให้รายละเอียดกับผมอีกหน่อยครับ”
“ผมจะคุยตัวต่อตัวทีละท่าน โดยบอกให้ทราบว่า ผมต้องการให้สมาชิกบอร์ดที่มีความอาวุโสสูงสุดนั้นมาทำหน้าที่ Mentor หรือพี่เลี้ยงของประธานบอร์ด เหตุผลที่ผมเลือกพวกเขาเนื่องจากพวกเขามีความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง เมื่อสมาชิกอาวุโสทั้งสองท่านหมดหน้าที่ความเป็นสมาชิกแล้ว ผมจะสรรหาสมาชิกใหม่มาแทนที่ วิธีนี้น่าจะทำให้พวกเขาไม่เสียหน้า”
“คุณวางแผนว่าจะบอกพวกเขาเมื่อไหร่ครับ”
“วิธีนี้ต้องละมุนละม่อมมาก ผมจะชวนพวกเขาไปออกรอบกอล์ฟด้วยทีละคน ระหว่างเล่นน่าจะมีโอกาสหลายครั้งที่จะสื่อสารเรื่องนี้ออกไปครับ โค้ชคิดว่าอย่างไรครับ”
“ผมตอบไม่ได้หรอกครับ คุณเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตนเอง”
“ตัวผมเองคิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีมากครับ”
“คุณคิดว่าประโยชน์อื่นๆที่คุณได้จากการพูดคุยกันในวันนี้คืออะไรครับ”
“มีสองประเด็นให้ผมเรียนรู้ครับ ขณะนี้ผมเป็นประธานบอร์ดของอีก 2 บริษัทลูกซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ผมจะต้องไม่ทำพลาดเช่นเดียวกับครั้งนี้อีก
ว่าแต่ โค้ชครับ โค้ชมีหนังสือเกี่ยวกับ บอร์ดที่ยอดเยี่ยมบ้างใหมครับ”
“มีครับ หนังสือชื่อ Great companies deserve great boards โดย Beverly Behan พูดเกี่ยวกับคุณลักษณะของบอร์ดที่มีประสิทธิภาพสูงใว้ตามนี้ครับ
- เมื่อคุณถามซีอีโอและทีมผู้บริหารว่าบอร์ดได้ให้ประโยชน์ใดกับองค์กรบ้าง พวกเขาสามารถตอบได้ทันที ถ้าจะให้ดีต้องได้อย่างน้อยสามตัวอย่างว่า บอร์ดสร้างความแตกต่างในเชิงการท้าทายความคิด ให้แนวทางที่เป็นประโยชน์ หรือช่วยพวกเขาในแง่มุมอื่นเพื่อทำให้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจในระดับบอร์ด
- เมื่อคุณถามสมาชิกบอร์ดแต่ละท่านว่าบอร์ดได้ทำอะไรบ้างที่ช่วยให้องค์กรดีขึ้น พวกเขาควรที่จะสามารถตอบคำถามได้ลงไปถึงรายละเอียด ข้อมูลจำเพาะเจาะจงเหล่านั้นจะเป็นตัวบอกว่าบอร์ดได้ใช้เวลาไปกับเรื่องที่มีความสำคัญ มีผลกระทบต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น เช่น เรื่องกลยุทธ์ การวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง ความเสี่ยง และการเงิน
- เมื่อถามสมาชิกบอร์ดแต่ละท่านว่าสิ่งใดบ้างที่บอร์ดสามารถพัฒนาปรับปรุงได้อีก แต่ละท่านควรที่จะสามารถให้อย่างน้อยสองถึงสามคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ บอร์ดจะมีประสิทธิภาพสูงได้ก็ต่อเมื่อมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น การที่หมั่นคิดหาหนทางทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นเท่านั้นที่จะทำให้มีความเป็นเลิศได้
- คุณลักษณะพิเศษของการประชุมบอร์ดมักได้แก่ ความตรงไปตรงมา เปิดเผย และความมีชีวิตชีวาของบอร์ด
- องค์กรสามารถสร้างผลงานที่ดีในทุกๆด้าน คือ การเงิน การปฏิบัติการ และกลยุทธ์”