หากคุณเป็น Knowledge Workers ในองค์กรที่กำลังเติบโตหรือมีผลประกอบการที่ดี
แต่คุณรู้สึกว่า งานมันเยอะและยากมากขึ้นกว่าเดิมมาก
อาจจะเป็นสัญญาณว่า คุณหรือทีมงานของคุณ
ยังไม่ได้ปรับทัศนคติ และพฤติกรรม
ให้สอดคล้องกับการบริบทใหม่ที่ต่างจากเดิมไปมาก
ลองดูภาพใหญ่กันก่อน
ขณะนี้ในระดับมหภาค การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเราไม่ได้ดีแบบเดิม
กำลังซื้อของลูกค้าในเกือบทุกอุตสาหกรรมก็ไม่ได้ดีแบบเดิม
ในขณะที่การแข่งขันที่มีผู้เล่นจาก Platforms ใหม่ ๆ มากขึ้น
และความคาดหวังของพนักงานก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หากเราจำแนกประเภทงานของเราเป็นสองลักษณะคือ
1. งาน Routine ที่เป็นกิจกรรมที่ทำเป็นประจำตามกำหนดเวลาหรือแบบแผนที่วางไว้
2. งาน Ad hoc หมายถึง สิ่งที่ทำขึ้นเฉพาะกิจ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะหน้า โดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า
ตาราง: เปรียบเทียบ Ad hoc และ Routine
ลักษณะ | Ad hoc | Routine |
การวางแผน | ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า | วางแผนไว้ล่วงหน้า |
ความถี่ | เกิดขึ้นเป็นระยะ | เกิดขึ้นเป็นประจำ |
ความยืดหยุ่น | ยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ | ยืดหยุ่นต่ำ ทำตามแผนที่วางไว้ |
ตัวอย่าง | การประชุมด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การจัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในโอกาสสำคัญ งาน Projects ใหม่ / ธุรกิจ New S-Curve | การประชุมทีมประจำสัปดาห์ การตรวจสอบสต็อกสินค้าทุกสิ้นเดือน |
Ad hoc เป็นการทำงานที่เน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ในขณะที่ Routine เป็นการทำงานที่เน้นความสม่ำเสมอและเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ทั้งสองรูปแบบมีประโยชน์ในบริบทที่แตกต่างกัน การเลือกใช้รูปแบบใดขึ้นอยู่กับลักษณะของงานและสถานการณ์ที่เผชิญ
ในอดีต องค์กรที่เติบโตมักจะมีงานประจำ 80% และมีงาน Ad hoc 20%
ในขณะที่ปัจจุบัน องค์กรที่เติบโตมักจะมีงานประจำ 50% และมีงาน Ad hoc 50%
ในขณะที่ โครงสร้างองค์กร ทักษะพนักงาน สไตล์การทำงาน การบริหารผลงาน ยังเป็นแบบเดิมอยู่
ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่า เราจะเจองานเยอะขึ้นและยากขึ้น
ทางแก้คืออะไร
1. ปรับโครงสร้างองค์กรและระบบการจัดการงาน
สร้างทีมงานข้ามสายงาน (Cross-functional teams): การจัดตั้งทีมงานที่มีความหลากหลายทางด้านทักษะและหน้าที่จะช่วยให้สามารถตอบสนองต่อการทำงานแบบ Ad hoc ได้ดียิ่งขึ้น
กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบใหม่: ปรับโครงสร้างงานและบทบาทของพนักงานให้สอดคล้องกับการทำงานแบบใหม่ โดยเน้นความยืดหยุ่นและการทำงานร่วมกัน
2. พัฒนาทักษะการทำงานแบบ Agile และ Project Management
อบรมการทำงานแบบ Agile: การฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามหลักการของ Agile จะช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและการทำงานที่ไม่คาดคิด
ใช้เครื่องมือการจัดการโครงการที่ทันสมัย: เพื่อช่วยในการติดตามและจัดการงาน Ad hoc ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้าง
ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดเผยและโปร่งใส: ให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาสามารถแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันไอเดียได้อย่างอิสระ
สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และการปรับตัว: ส่งเสริมให้พนักงานมีความพร้อมในการเรียนรู้และปรับตัวตามสถานการณ์ใหม่ ๆ
4. จัดการทรัพยากรและกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ
การประเมินทรัพยากรที่จำเป็น: วิเคราะห์และจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับงานที่เข้ามา โดยคำนึงถึงความสำคัญและความเร่งด่วนของงาน
ใช้การทำงานร่วมกับ Freelancer หรือ Outsource: ในบางกรณี การจ้างงานภายนอกอาจช่วยลดภาระงาน Ad hoc ที่เพิ่มขึ้นได้
5. การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
นำเทคโนโลยี AI และ Automation เข้ามาช่วย: เพื่อช่วยในการทำงาน Routine ที่สามารถทำอัตโนมัติได้ ทำให้ทีมงานมีเวลามากขึ้นในการจัดการงาน Ad hoc
ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและแนวคิดใหม่ ๆ: กระตุ้นให้พนักงานใช้เทคโนโลยีและวิธีการทำงานใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การนำข้อแนะนำเหล่านี้ไปปฏิบัติสามารถช่วยให้ทีมงานของคุณปรับตัวและสามารถจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในบริบทใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากขึ้นครับ