ผู้จัดการมีหน้าที่หลัก ๆ คือ จัดการแก้ปัญหาในงาน และบริหารงานภาพใหญ่
แต่ชีวิตจริงเป็นอย่างไร
เราจะเห็นผจก.สามกลุ่ม
ก. กลุ่มแรก เป็นผู้จัดการที่แก้ปัญหาในงาน และ มีเวลาบริหารงานภาพใหญ่พอสมควร
ข. กลุ่มที่สอง ยุ่งกับการแก้ปัญหาในงานมากเกินควร แต่พอมีเวลาบ้างในการบริหารภาพใหญ่
ค. กลุ่มที่สาม ยุ่งกับการแก้ปัญหาในงานมากไป และแทบไม่มีเวลาบริหารภาพใหญ่
จากประสบการณ์ ผจก.ส่วนใหญ่ มักจะอยู่ในกลุ่ม ข.และค.
จึงเป็นเรื่องปกติที่เราเห็นผจก.ส่วนใหญ่ยุ่งมากถึงยุ่งที่สุด
ทางแก้ไขคืออะไร
1. เข้าใจหลักการ
2. เก็บข้อมูล
3. ปรับเปลี่ยนแก้ไข
4. ติดตามผล
1. เข้าใจหลักการ
หลักการบริหาร ผู้จัดการมีหน้าที่จัดการงานให้สำเร็จผ่านคนอื่น
ซึ่งหมายความว่าต้องสามารถจัดการทรัพยากรให้เหมาะสม
ในการแก้ปัญหาในงาน และบริหารงานในภาพใหญ่ได้
ดังนั้นจึงต้องมีดุลพินิจที่ดีว่าต้องใช้เวลากับแต่ละเรื่องอย่างไรก่อน
2. เก็บข้อมูล
หลังจากนั้น ให้ลองลงมือเก็บข้อมูล
โดยอาจจะตรวจสอบดูในแต่ละสัปดาห์ว่า
a. มีงานไหนบ้าง ที่เราคิดว่าเราไม่ควรเป็นคนทำ
b. มีงานไหนบ้าง ที่เป็นการแก้ปัญหา เพราะคนของเราเป็นสาเหตุ
c. มีงานไหนบ้าง ที่เป็นการแก้ปัญหา เพราะเราเป็นสาเหตุ
3. ปรับเปลี่ยนแก้ไข
เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ลองมาเปรียบเทียบ
ดูว่าข้อเท็จจริงต่างกับหลักการเพียงใด
แล้วลงมือปรับปรุงแก้ไข
4. ติดตามผล
หลังจากนั้นก็ติดตามผล
ควรประเมินตัวเองทุก ๆ 6 หรือ 12 เดือนครับ
ตัวอย่าง
สว่างได้รับการโปรโมทจากผจก.ฝ่ายขายขึ้นเป็นผจก.ทั่วไป
โดยมีปรียาที่เดิมเคยเป็นผช.ผจก.ฝ่ายขาย ขึ้นเป็นผจก.ฝ่ายขายแทนเขา
สามเดือนแรกที่เขาได้รับตำแหน่ง เขามาทำงาน 7:00 น.กลับ 20:00 น.ทุกวัน
แถมเสาร์/อาทิตย์ ยังต้องหอบงานกลับไปทำที่บ้านอีก
หลังจากลองถามสามคำถามนี้ สว่างพบว่า
a. มีงานไหนบ้าง ที่เราคิดว่าเราไม่ควรเป็นคนทำ
เขาเข้าร่วมประชุมรายสัปดาห์ของฝ่ายขายมาตลอด 3 เดือนที่ได้รับตำแหน่งใหม่
ที่จริงแล้ว หลังจากสังเกตปรียานำประชุมใน 3 สัปดาห์แรก
เขาก็พบว่าปรียาทำได้ดีแล้ว แต่เขาก็ยังเข้าร่วมประชุมอยู่
จากคำถามนี้ เขาจึงงดการเข้าประชุมนี้
และได้เวลาเพิ่มขึ้นมา 3 ชม./สัปดาห์ หรือ 12 ชม./เดือน
b. มีงานไหนบ้าง ที่เป็นการแก้ปัญหา เพราะคนของเราเป็นสาเหตุ
เขาไม่พบคำตอบอะไร
c. มีงานไหนบ้าง ที่เป็นการแก้ปัญหา เพราะเราเป็นสาเหตุ
เขาพบว่า งานที่เขามอบหมายให้เลขาทำสไลด์นำเสนอมักไม่ถูกใจ
แต่เป็นเรื่องของสไตล์มากกว่า เพราะข้อมูลก็ครบถ้วนดี
ประกอบกับเขาเป็นคนที่ชอบทำสไลด์มาก
ดังนั้น หากเขาไม่ติดใจเรื่องสไตล์แล้ว
งานนี้เขาก็สามารถปล่อยให้เลขาทำได้เลย
ซึ่งทำให้เขาได้เวลาเพิ่มอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ชม. หรือเดือนละ 4 ชม.
จากคำถามชุดนี้ เขาได้เวลาเพิ่มขึ้นเดือนละ 16 ชม.มาทันที
เดือนต่อไป เขาก็เริ่มกลับบ้านได้เร็วขึ้น และไม่ต้องนำงานกลับไปทำบ้าน
คุณละครับ จะลองนำแนวทางนี้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไรบ้างครับ