ในยุคที่ความรู้คือทุน Knowledge Workers ผู้มีการศึกษาสูง มักวาดฝันถึงตำแหน่งผู้นำในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนอาจมองข้ามความสำคัญของบทบาท “ผู้ตาม” ที่พวกเขาดำรงอยู่ในปัจจุบัน
แต่ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ บุคคลที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำทุกคน ล้วนผ่านการสั่งสมประสบการณ์ในฐานะผู้ตามมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ล้วนเคยเป็น “ผู้ตามมืออาชีพ” มาก่อนทั้งสิ้น
คุณลักษณะสำคัญประการแรกของผู้ตามมืออาชีพ คือ “ความคิดริเริ่มไม่รอคำสั่ง” ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
1. ผู้ปฏิบัติตาม (Implementer): ผู้ตามในระดับนี้ ทำงานตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด โดยไม่แสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะใด ๆ เพิ่มเติม
ตัวอย่าง: พนักงานฝ่ายขายที่ทำตามแผนการขายที่ได้รับมอบหมายจากผู้จัดการ โดยไม่พยายามหาลูกค้าใหม่ หรือเสนอแนวทางการขายที่แตกต่างออกไป
2. ผู้เสนอ (Suggester): ผู้ตามในระดับนี้ เริ่มแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะบ้าง แต่ยังคงรอการตัดสินใจจากผู้นำ
ตัวอย่าง: พนักงานฝ่ายการตลาดที่เสนอไอเดียสำหรับแคมเปญใหม่ แต่รอให้ผู้จัดการเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะนำไอเดียนั้นไปใช้หรือไม่
3. ผู้ริเริ่ม (Initiator): ผู้ตามในระดับนี้ เริ่มลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่รอคำสั่งจากผู้นำ แต่ยังคงรายงานความคืบหน้าและขอคำแนะนำเป็นระยะ
ตัวอย่าง: วิศวกรที่พบปัญหาในการผลิต และเริ่มทดลองวิธีแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง โดยรายงานผลให้ผู้จัดการทราบเป็นระยะ
4. ผู้นำตนเอง (Self-Leader): ผู้ตามในระดับนี้ สามารถทำงานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพาคำสั่งหรือการควบคุมจากผู้นำ พวกเขามีความรับผิดชอบสูง และสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
ตัวอย่าง: ผู้จัดการโครงการที่สามารถบริหารจัดการโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องได้รับการควบคุมจากผู้บริหารระดับสูง
การพัฒนาตนเองจาก “ผู้ปฏิบัติตาม” ไปสู่ “ผู้นำตนเอง” เป็นเส้นทางที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น และความพร้อมสำหรับก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำในอนาคต