ทำอย่างไรเมื่องานมากเกินกำลัง

เนื้อหาได้รับความช่วยเหลือจาก Gemini AI ในการรวบรวมข้อมูล (14 พ.ย. 2567)

คนทำงานเก่ง ๆ หลายคน 

เมื่อขึ้นมาเป็นหัวหน้า มักจะทำงานหนักขึ้น

ทำให้เวลาที่ใช้ในการทำงานมากขึ้น

เวลาส่วนตัวน้อยลงไปมาก

เกิดอาการ Work-Life Balance ไม่ดี บางคนเรียก “Work ไร้ Balance” 

ในที่สุดก็เกิดอาการ Burn Out และส่งผลต่อสุขภาพในที่สุด

1. อะไรที่เป็นสาเหตุของปัญหานี้บ้าง 

2. อะไรคือต้นตอหรือที่มาที่แท้จริงของสาเหตุแต่ละข้อ

3. เราจะป้องกันแต่ละสาเหตุอย่างไร

4. หากป้องกันไม่ทัน เราควรมีการจัดการกับแต่ละสาเหตุอย่างไร

5. นัยสำคัญของปัญหานี้คืออะไร

6. สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ ในการจัดการปัญหานี้คืออะไร

ปัญหาของการทำงานหนักเกินไปและการขาด Work-Life Balance ในกลุ่มหัวหน้างานหรือผู้บริหารเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในคนที่มีความสามารถสูงและมุ่งมั่นในการทำงาน แต่เมื่อขึ้นมาเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหาร มักพบว่าแรงกดดันและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการ Burn Out และส่งผลต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานในระยะยาว ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้:

1. สาเหตุของปัญหา 6 สาเหตุ

   – **ความคาดหวังสูงจากตัวเอง**: หลายคนมีมาตรฐานสูงและคาดหวังผลงานที่ดีเยี่ยมจากตัวเองทุกครั้ง

   – **ขาดการมอบหมายงาน (Delegation)**: หัวหน้าบางคนยังยึดติดกับการทำงานเอง ไม่มั่นใจในการมอบหมายงานให้ทีม

   – **ขอบเขตของงานที่ไม่ชัดเจน**: มีงานหรือภารกิจที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีการกำหนดขอบเขตชัดเจน

   – **วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการทำงานหนัก (Work Hard Culture)**: องค์กรบางแห่งให้ความสำคัญกับการทำงานหนักมากกว่าผลลัพธ์

   – **ขาดการบริหารเวลา**: ผู้บริหารหลายคนไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ ทำให้ใช้เวลาในการทำงานเกินความจำเป็น

   – **ความต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองในตำแหน่งใหม่**: เมื่อมีตำแหน่งสูงขึ้น มักมีแรงกดดันในการพิสูจน์ความสามารถในบทบาทใหม่

2. ต้นตอหรือที่มาที่แท้จริงของสาเหตุแต่ละข้อ

   – **ความคาดหวังสูงจากตัวเอง**: เกิดจากความเชื่อที่ว่า “ต้องทำให้ดีที่สุด” ซึ่งอาจได้รับการสอนมาจากสังคมหรือครอบครัว

   – **ขาดการมอบหมายงาน**: เกิดจากความไม่เชื่อมั่นในทีม หรือกลัวว่าคนอื่นจะทำได้ไม่ดีเท่า

   – **ขอบเขตของงานที่ไม่ชัดเจน**: บ่อยครั้งเกิดจากการไม่ได้เจรจาขอบเขตหน้าที่กับผู้บังคับบัญชา หรือไม่ได้มีการปรับปรุงขอบเขตงานอย่างชัดเจนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

   – **วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการทำงานหนัก**: องค์กรบางแห่งมองว่าการทำงานหนักเป็นการแสดงถึงความทุ่มเทและภักดี

   – **ขาดการบริหารเวลา**: มาจากการไม่ได้ฝึกการจัดการเวลา หรือความรู้สึกกดดันจากงานหลายอย่าง

   – **ความต้องการพิสูจน์ตัวเอง**: มาจากความต้องการแสดงศักยภาพให้เห็นว่าเหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ

3. การป้องกันแต่ละสาเหตุ

   – **ความคาดหวังสูงจากตัวเอง**: สร้างความเข้าใจใน “ความพอดี” โดยตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่เป็นจริงได้ และมีการพักผ่อนบ้าง

   – **ขาดการมอบหมายงาน**: ฝึกมอบหมายงานให้ทีม เริ่มจากงานเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ มอบหมายงานที่ซับซ้อนขึ้น

   – **ขอบเขตของงานที่ไม่ชัดเจน**: กำหนดขอบเขตงานที่ชัดเจน และมีการประชุมปรับเปลี่ยนขอบเขตเป็นประจำตามความเหมาะสม

   – **วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการทำงานหนัก**: ผลักดันให้มีการประเมินผลตามผลงานมากกว่าการใช้เวลาทำงานยาวนาน

   – **ขาดการบริหารเวลา**: ใช้เครื่องมือในการจัดการเวลา เช่น การจัดลำดับความสำคัญของงาน (Priority Management) หรือการใช้หลัก Eisenhower Matrix

   – **ความต้องการพิสูจน์ตัวเอง**: หมั่นตรวจสอบว่างานที่ทำนั้นเป็นการทำเพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือเพื่อประโยชน์องค์กรจริง ๆ

4. การจัดการเมื่อป้องกันไม่ทัน

   – **ความคาดหวังสูงจากตัวเอง**: หยุดและทบทวนการทำงาน อาจต้องขอคำแนะนำจากโค้ชหรือที่ปรึกษา

   – **ขาดการมอบหมายงาน**: เริ่มมอบหมายงานแม้ในช่วงที่ลำบาก และยอมรับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

   – **ขอบเขตของงานที่ไม่ชัดเจน**: พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาเพื่อปรับขอบเขตงานหรือขอการสนับสนุนเพิ่มเติม

   – **วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการทำงานหนัก**: สนับสนุนให้มีการสร้างสมดุลชีวิต-การทำงาน และแจ้งให้ผู้บริหารทราบถึงผลกระทบของการทำงานหนัก

   – **ขาดการบริหารเวลา**: ทำการทบทวนการใช้เวลาในแต่ละวัน และตัดงานที่ไม่จำเป็นออก

   – **ความต้องการพิสูจน์ตัวเอง**: ตระหนักว่าไม่จำเป็นต้องทำงานหนักตลอดเวลาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ควรมุ่งที่ประสิทธิภาพและผลลัพธ์

5. นัยสำคัญของปัญหานี้

ปัญหานี้มีนัยสำคัญในเรื่องสุขภาพกายและจิตของผู้บริหาร ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า หากไม่แก้ไขปัญหา อาจทำให้ความพยายามในระยะยาวขององค์กรล้มเหลว เนื่องจากขาดผู้นำที่มีสมดุลและความสามารถในการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการจัดการปัญหานี้

   – **สิ่งที่ควรทำ**: ส่งเสริมให้ผู้บริหารจัดการเวลา ใช้เครื่องมือในการบริหารงาน และสร้างสมดุลระหว่างชีวิต-การทำงาน 

   – **สิ่งที่ไม่ควรทำ**: ไม่ควรสนับสนุนหรือชื่นชมการทำงานหนักจนเกินไป โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ และไม่ควรปล่อยให้ปัญหานี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีการสนับสนุนหรือแทรกแซง