เนื้อหาได้รับความช่วยเหลือจาก ChatGPT 4.0 ในการรวบรวมข้อมูล (25 ตุลาคม 2567)
1. Leadership Self-Awareness คืออะไร
Leadership Self-Awareness คือการที่ผู้นำมีความตระหนักรู้และเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของความคิด ความรู้สึก พฤติกรรม จุดแข็ง และจุดที่ต้องพัฒนา การมี self-awareness ทำให้ผู้นำสามารถตอบสนองและปรับตัวต่อสถานการณ์และความต้องการของทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้การตัดสินใจมีความสมดุลและรอบคอบมากขึ้น
2. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรามี Leadership Self-Awareness ที่เหมาะสม
การวัดว่าเรามี Leadership Self-Awareness ที่เหมาะสมหรือไม่ สามารถประเมินได้จาก:
– การได้รับ feedback จากผู้ร่วมงาน เช่น เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง และผู้บริหารระดับสูง เพื่อดูว่า perception ของคนอื่นเกี่ยวกับเราเป็นอย่างไร
– การสังเกตการตอบสนองของตัวเองต่อความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงในองค์กร หากเรามีความยืดหยุ่นและสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี แสดงว่าเราอาจมี self-awareness ที่ดี
– การทำ self-assessment ผ่านเครื่องมือ เช่น CliftonStrengths / MBTI / Disc ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจลักษณะเฉพาะตัวและสไตล์การเป็นผู้นำได้ดีขึ้น
3. สัญญาณอะไรบ้างที่จะบอกเราว่าเรามี Leadership Self-Awareness ต่ำกว่าที่ควร
สัญญาณที่บอกถึง Leadership Self-Awareness ต่ำ ได้แก่:
– การไม่ยอมรับ feedback หรือตอบสนองต่อ feedback ในเชิงลบ โดยไม่พิจารณาหรือพยายามเปลี่ยนแปลง
– มีความอ่อนไหวต่อการวิจารณ์และอาจโต้ตอบอย่างไม่เหมาะสมเมื่อถูก challenge
– การไม่สามารถระบุได้ว่าตัวเองมีจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาอะไรบ้าง
– มีความรู้สึกว่าตัวเองทำทุกอย่างถูกต้องเสมอ และมองว่าคนอื่นเป็นฝ่ายผิด
– มีการตัดสินใจที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กร หรือการมีพฤติกรรมที่ทำให้บรรยากาศในทีมเสียหาย
4. เรามีวิธีพัฒนา Leadership Self-Awareness ให้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง
วิธีในการพัฒนา Leadership Self-Awareness ได้แก่:
– การฝึกการรับ feedback โดยหมั่นขอ feedback ที่สร้างสรรค์จากทีมงานหรือเพื่อนร่วมงาน และนำไปปรับปรุงตัวเองอย่างจริงจัง
– Reflection เป็นประจำ โดยการตั้งคำถามตัวเองทุกวันหรือทุกสัปดาห์ เช่น “วันนี้ฉันทำสิ่งใดได้ดีและสิ่งใดที่ต้องปรับปรุง” “มีอะไรที่ฉันสามารถทำให้ดีขึ้นในครั้งหน้า”
– การใช้เครื่องมือ self-assessment หลาย ๆ แบบ เพื่อมองหาแบบแผน เช่น การทดสอบ CliftonStrengths / MBTI / DISC ที่จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมและสไตล์การทำงานของตัวเองมากขึ้น
– การมีโค้ชหรือ mentor ที่จะคอยแนะนำและช่วยให้เราพัฒนา self-awareness อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้เราสามารถตรวจสอบพฤติกรรมและการตัดสินใจของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
– การฝึกสติ (Mindfulness) ช่วยให้เรารู้จักอยู่กับปัจจุบัน เข้าใจอารมณ์และความคิดของตัวเอง ช่วยลดความเครียดและสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น