ในการทำงาน แต่ละคนย่อมมีทัศนคติที่แตกต่างกันออกไป
บางคนทำงานแบบขอไปที เพียงแค่ทำตามหน้าที่ให้เสร็จไปวันๆ โดยไม่สนใจคุณภาพของงาน
บางคนทำงานแบบมืออาชีพ ใส่ใจในทุกรายละเอียด มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุด
การทำงานแบบ “ขอไปที”
– รับมอบหมายงานแบบไม่ถาม เพียงแค่รับฟังคำสั่งแล้วทำตามโดยไม่ถามรายละเอียดเพิ่มเติม บางครั้งอาจเข้าใจผิดในสิ่งที่ได้รับมอบหมาย จนทำให้งานออกมาผิดพลาด
– เกิดปัญหาหาทางแก้ไขลำพัง พยายามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาใคร เพราะกลัวโดนตำหนิ หากปัญหาบานปลายอาจแก้ไขได้ยากและเสียหายมากกว่าเดิม
– เมื่อต้องตัดสินใจถามหัวหน้า ไม่อยากใช้ความคิด เพราะอาจไม่มั่นใจในตนเอง รอให้หัวหน้าตัดสินใจให้ทุกอย่าง
– ส่งงานตามกำหนดเวลา เพราะคิดว่าเป็นความรับผิดชอบ แต่อาจไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของงาน
– ไม่ถาม Feedback กลัวว่าจะต้องปรับเปลี่ยนงานใหม่ ซึ่งอาจทำให้งานเพิ่มขึ้นหรือคนไม่พอใจผลงานของตน
ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม
สมมุติว่าหัวหน้ามอบหมายให้พนักงานคนหนึ่งทำรายงานสรุปยอดขายสินค้าประจำเดือน พนักงานคนนั้นรับมอบหมายงานมาก็เริ่มทำทันที โดยไม่ได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากหัวหน้าว่าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง เพียงนำข้อมูลยอดขายจากระบบมาสรุปให้เสร็จภายในกำหนดเวลา โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ทำให้รายงานสรุปยอดขายสินค้าออกมาผิดพลาด
หรือสมมุติว่าพนักงานคนหนึ่งได้รับมอบหมายให้จัดทำแผนการตลาดให้กับสินค้าใหม่ พนักงานคนนั้นไม่แน่ใจว่าควรทำแผนการตลาดแบบใด จึงตัดสินใจรอให้หัวหน้าตัดสินใจให้ทุกอย่าง สุดท้ายหัวหน้าก็ตัดสินใจให้พนักงานคนนั้นจัดทำแผนการตลาดแบบเดิมที่เคยทำมาแล้ว ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับสินค้าใหม่
การทำงานแบบ “มืออาชีพ”
– รับมอบหมายงานพร้อมถาม ถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจงานอย่างถ่องแท้ ป้องกันความเข้าใจผิดและทำงานออกมาผิดพลาด
– เกิดปัญหาหารือคนเกี่ยวข้อง ปรึกษากับผู้ที่มีความรู้หรือเกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ช่วยให้แก้ปัญหาได้เร็วกว่าและความเสียหายน้อยกว่า
– เมื่อต้องตัดสินใจเสนอทางเลือกและบทวิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นและเสนอทางเลือกต่างๆ ให้กับหัวหน้า เพื่อให้หัวหน้าตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
– ส่งงานก่อนเวลาพอสมควร เพื่อให้คนที่จะนำงานไปใช้มีเวลาตรวจสอบและเตรียมตัว ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
– หา Feedback เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น เพื่อนำไปปรับปรุงงานให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม
สมมุติว่าหัวหน้ามอบหมายให้พนักงานคนหนึ่งทำรายงานสรุปยอดขายสินค้าประจำเดือน พนักงานคนนั้นรับมอบหมายงานมาก็รีบสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากหัวหน้าว่าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง เพื่อให้เข้าใจงานอย่างถ่องแท้ จากนั้นจึงเริ่มทำรายงานโดยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้รายงานสรุปยอดขายสินค้าออกมาถูกต้องและน่าเชื่อถือ
หรือสมมุติว่าพนักงานคนหนึ่งได้รับมอบหมายให้จัดทำแผนการตลาดให้กับสินค้าใหม่ พนักงานคนนั้นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าใหม่อย่างละเอียด จากนั้นจึงเสนอทางเลือกต่างๆ ให้กับหัวหน้า เพื่อให้หัวหน้าตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม สุดท้ายแผนการตลาดที่พนักงานคนนั้นจัดทำขึ้นก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า
สรุป
การทำงานแบบมืออาชีพ นอกจากจะแสดงถึงความรับผิดชอบแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและทัศนคติที่ดีในการทำงานอีกด้วย หากทุกคนมีทัศนคติในการทำงานแบบมืออาชีพ ย่อมส่งผลดีต่อองค์กรและสังคมครับ