โค้ชแพะให้เป็นเสือ

ดอนเลื่อนการโค้ชแบบตัวต่อตัวกับผมมา 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่เราพบกันคือเมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน ผมเริ่มด้วยการสนทนาวิสาสะว่า “เป็นอย่างไรบ้างครับ หลังจากทำมาครบ 100 วันพอดี”

“ไม่ดีเลย เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วคนเริ่มตำหนิผม”

ดอนเป็นผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลงานด้านสารสนเทศที่นี่

“เล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ”

“ที่นี่เขามองหาแพะรับบาป ซีอีโอชี้นิ้วมาที่ผม คนที่ดูการตลาดหาว่าผมทำให้บริษัทไม่สามารถบรรลุยอดขาย คนที่ดูฝ่ายการเงินหาว่าผมทำให้ค่าใช้จ่ายของบริษัทเกินจากงบมากมาย ผมไม่เคยกลับบ้านก่อน 4 ทุ่มเลยตั้งแต่มาทำงานที่นี่ จะเอาอะไรกับผมอีก…”

ดอนระบายและคร่ำครวญฝ่ายเดียวกว่า 10 นาที ผมตั้งใจฟังและแสดงความเห็นใจเขาเป็นระยะ

ดอนจบด้วยคำถามที่ยากมากว่า “คุณเกรียงศักดิ์ ผมควรทำอย่างไรดี ผมจะบริหารงานไอทีอย่างไร ในแง่ธุรกิจและสารสนเทศนะ”

“ดอน ผมรู้น้อยกว่าคุณมหาศาลในเรื่องไอที ผมช่วยคุณไม่ได้หรอก”

ดอนดูท่าผิดหวัง

ผมพูดต่อ “เราตกลงตั้งแต่แรกแล้วนี่ ว่าผมจะช่วยเรื่องภาวะผู้นำ การปรับตัวเข้ากับคนในที่ทำงานใหม่”

ดอนพยักหน้า “ก็ยังดีที่คุณทนฟังผมพูดซะเยิ่นยาว ผมไม่รู้จะคุยกับใครดี”

“ดอนผมพอจะนึกภาพออกว่าจากมุมมองของคุณ คุณพยายามทุ่มเทการทำงานอย่างหนัก แต่กลับได้รับการตำหนิจากคนรอบตัว

ผมมีกิจกรรมหนึ่งอยากให้คุณลองทำตาม จินตนาการว่าคุณสามารถถอดวิญญาณของคุณออกมาจากร่างคุณได้ ตอนนี้คุณถอยวิญญาณของคุณออกมา 2 ก้าว แล้วมองกลับไปยังคำตำหนิของทั้ง 3 คนที่เขาบอกคุณ มันอาจจะขมขื่นหน่อยนะ แต่ว่าคุณพยายามมองมันอย่างมีเป้าหมาย แล้วตอนนี้คุณก็เป็นวิญญาณไม่ใช่นายดอนอีกต่อไป
ลองวิเคราะห์ดูสิครับว่า สิ่งที่ทั้ง 3 คน บอกคุณนั้นมีแบบแผน หรือมีอะไรคล้ายๆ กันบ้างครับ”

ดอนเงียบไป เขากำลังจินตนาการตาม

เขาบอกออกมาอย่างกระอักกระอ่วนว่า “พวกเขาบอกว่าผมทำงานหนัก แต่ทำงานไม่ฉลาด ซีอีโอหาว่าผมขาดภาวะผู้นำ การเงินบอกว่าผมใจดีมากเกินไป การตลาดบอกว่าผมมอบหมายงานไม่ดี”

“ดีมากดอน เริ่มต้นถูกทางแล้ว นี่เป็นข้อมูลย้อนกลับจากพวกเขา โดยปกติมันจะผสมระหว่างความจริงและความเห็น มีส่วนไหนบ้างที่เป็นความจริง”

“ผมว่า…ผมอาจจะใจอ่อนมากไป ผมไม่ได้พยายามผลักดันคนของผมเต็มที่ สิ่งที่ผมทำครึ่งหนึ่งเป็นงานของลูกน้อง”

“แล้วทำไมไม่มอบหมายลงไปล่ะ”

“ผมอยากให้งานมันออกมาสมบูรณ์ยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ”

“หากคุณไม่ปรับเปลี่ยนวิธีทำงาน สถานการณ์จะเป็นอย่างไร”

“คงแย่ลง” เขาอุทาน

“มีทางเลือกอื่นอย่างไรบ้างล่ะ”

“ผมอาจจะต้องจัดลำดับคาวมสำคัญมากขึ้น และมอบหมายงาน แต่ว่าลูกน้องผมไม่เก่งและขาดประสบการณ์”

เขาชะงัก

“แล้วจะทำอย่างไรดี”

“ผมคงต้องฝึกอบรมและโค้ชเขาล่ะ แต่ผมไม่มีเวลาเลย”

“คุณมีเวลาดอน เพียงแค่คุณจัดทำรายการสิ่งที่ไม่ควรทำขึ้นมา”

“มันคืออะไร”

“ในตอนเช้า เมื่อคุณทำรายการว่าจะทำอะไรในวันนี้เสร็จแล้ว ให้ระบุว่า สิ่งที่คุณไม่ควรทำมีอะไรบ้าง โดยใช้แนวทางคำถามเหล่านี้

  • มีงานไหนที่อาจจะเลื่อนออกไปได้
  • มีงานไหนที่อาจจะมอบหมายให้คนอื่นทำแทนได้
  • มีงานไหนที่อยากทำมันมากเพราะชอบ แต่คนอื่นอาจไม่สนเลย
  • มีงานไหนที่คุณค่าน้อย แต่ใช้พลังมหาศาล และสามารถรอได้”

“ผมจะลอง แต่ว่าผมไม่เคยเทรนหรือโค้ชลูกน้องมาก่อนเลย ที่เก่าที่ผมเคยอยู่เป็นองค์กรชั้นนำ เขาสรรหาคนเก่งๆ มาทำงานด้วย หรือไม่ก็เป็นประเภทที่มีความรับผิดชอบสูง พวกเขาไม่ต้องการการโค้ชจากผมเลย”

“เรื่องนี้ไม่ยาก ผมช่วยคุณเอง ผมขอเวลา 2 ชั่วโมง ติวคุณเรื่องแนวทางการออกแบบการโค้ชให้พรุ่งนี้ก็ได้”

“ดีครับ” ดอนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“คุณทำอะไรได้อีก”

“โอเคนะ”

“นี่ช่วยแก้ปัญหางาน แต่ยังไม่ช่วยเรื่องภาพลักษณ์ คุณควรกลับไปขอบคุณ 3 คน ที่ตำหนิคุณ พร้อมทั้งบอกเขาว่าคุณมีแผนการอย่างไร ไม่งั้นเขาจะจดจำภาพผิด ๆ ของคุณตลอดไป”