บทความโดย: โค้ชเกรียงศักดิ์ นิรัติพัฒนะศัย
ภาพ: iStock
“คุณเกรียงศักดิ์ ผมต้องการความช่วยเหลือเพราะมีงานล้นมือ ช่วยโค้ชผมเรื่องการบริหารเวลาหน่อยครับ”
“คุณสุรัตน์ ก่อนที่จะสรุปว่าต้นเหตุของปัญหามาจากการบริหารเวลา ผมขอถามคำถามก่อนจะได้ใหมครับ”
“เชิญครับ”
“เล่าให้ฟังเกี่ยวกับงานที่ล้นมือของคุณหน่อยครับ”
คุณสุรัตน์เล่าสถานการณ์
“กี่เปอร์เซ็นต์ของงานที่คุณทำเป็นงานของลูกน้องครับ”
“ครึ่งๆครับ”
“แล้วทำไมคุณจึงทำงานของพวกเขา”
“เพราะพวกขาทำได้ไม่มีประสิทธิภาพ”
“มีลูกน้องของคุณกี่คนที่ทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ”
“สองจากหกคนครับ”
“เพราะอะไรผู้อำนวยการสองท่านนี้จึงทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ”
“ผมคิดว่าพวกเขาไม่เหมาะกับหน้าที่ปัจจุบันครับ”
“คุณเริ่มสังเกตว่าพวกเขาไม่เหมาะกับหน้าที่ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“หกเดือนที่แล้วครับ หลังจากที่เราควบรวมกิจการกับอีกบริษัทหนึ่ง”
“อะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณยังทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ”
“ผมคิดว่าผู้อำนวยการสองท่านนี้รวมถึงผมเองคงจะหมดแรงเพราะปริมาณงาน และคงหมดไฟในที่สุด”
“ถ้าทราบเช่นนี้แล้วคุณควรทำอย่างไร”
“ผมต้องหาคนที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมมาแทน อ้อ สรุปแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องการบริหารเวลาจริงๆ” คุณสุรัตน์ถอนหายใจ
“โค้ชครับ ผมไม่เคยให้พนักงานออกมาก่อนเลยในชีวิต ผมควรทำอย่างไรดี”
“เพื่อเป็นการยุติธรรมต่อพวกเขา คุณได้ทำอะไรเพื่อให้การสนับสนุนพวกเขาก่อนที่จะมารับหน้าที่ใหม่นี้หรือไม่”
“ผมจัดอบรม โค้ชชิ่ง และมีระบบพี่เลี้ยงให้ทุกๆคน ทำให้ผู้อำนวยการอีกสี่ท่านสามารถปรับตัวเข้ากับหน้าที่ได้ แต่สำหรับสองท่านนี้ ผมคิดว่าท่านทั้งสองเองก็มองออกว่าตนเองไม่เหมาะสมกับหน้าที่นี้”
“คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณบอกพวกเขาตรงๆ”
“ก็อาจเสียใจนิดหน่อยแต่คงไม่รู้สึกประหลาดใจ อาจจะรู้สึกโล่งใจด้วยซ้ำไป”
“คุณมีใครในใจที่จะมาแทนที่ใว้แล้วหรือยัง”
“ไม่น่ามีปัญหาครับ ผมสามารถวางตัวคนในได้หนึ่งท่านและต้องจ้างจากภายนอกอีกท่านหนึ่งครับ
โค้ชครับ ผมยังกังวลอยู่เลย ว่าผมจะพูดกับเขาทั้งสองอย่างไรดีครับ”
“เพราะอะไรครับ”
“เพราะบริษัทเราไม่เคยให้พนักงานออกมาก่อน” เขาทำหน้าเครียดและจริงจังมาก
“คุณสุรัตน์ คุณดูเครียดมาก คุณอาจยังไม่สามารถหาทางออกที่ดีและสร้างสรรค์ได้ในขณะที่เครียดเช่นนี้ เรามาเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อแทรกความคิดเชิงลบของคุณสักพักดีกว่า
ปกติคุณขับรถมาทำงานเองหรือเปล่าครับ”
“ขับเองครับ ผมชอบขับรถ” สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันทีเมื่อได้คุยเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองชอบ
“ดีครับ คุณสุรัตน์ ปกติเวลาขับรถสัดส่วนที่คุณใช้เวลาในการมองกระจกหน้า กับกระจกหลังเป็นเท่าไหร่ครับ”
“มองไปข้างหน้า 90% และ มองไปที่กระจกหลัง 10% ครับ”
“คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณมองกระจกหลัง 90% แทนที่จะเป็นกระจกหน้า”
“คงขับออกจากบ้านไม่ได้ครับ”
“ผมชอบคำกล่าวของ Marshall McLuhan นักปราชญ์ชาวแคนนาดาว่า
อดีตได้ผ่านไปแล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องราวใหม่ๆเรากลับยึดติดกับสิ่งที่เพิ่งผ่านพ้นไป เรากำลังมองอนาคตผ่านกระจกมองหลัง เรากำลังเดินถอยหลังเข้าสู่อนาคต
กลับมาที่เรื่องงานของคุณ คุณคิดว่าตนเองกำลังมองกระจกหลังหรือกระจกหน้า”
คุณสุรัตน์เงียบไปสักครู่ เพื่อใช้ความคิด
แล้วพูดออกมาว่า “ผมมองกระจกหลังมาแล้วถึง 6 เดือน นี่คือสาเหตุว่าทำไมผมถึงก้าวไปข้างหน้าไม่ได้สักที ผมต้องการเปลี่ยนความคิดนี้”
“ดีครับ”
“โค้ชช่วยลองซ้อมบทบาทเหมือผมกำลังคุยกับผู้อำนวยการทั้งสองท่านหน่อยสิครับ”
“ได้แน่นอนครับ คุณกังวลเกี่ยวกับท่านใหนมากกว่ากัน”
“คุณแดงครับ ท่านอยู่กับองค์กรมากว่า 20 ปี”
“เพราะอะไรคุณจึงกังวลเกี่ยวกับเขามากครับ”
“เพราะท่านเป็นคนดี ทำงานหนัก มีความรับผิดชอบ และพยายามอย่างถึงที่สุดเสมอ”
“ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมจึงทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ”
“จุดอ่อนคือภาษาอังกฤษ ท่านไม่สามารถเขียนจดหมายโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ ทำให้ผมต้องตอบอีเมล์ รับผิดชอบทำรายงาน และการสื่อสารภาษาอังกฤษทั้งหมด เพราะท่านมีนายอีกคนที่หน่วยภูมิภาคที่ฮ่องกง”
“แล้วคุณแดงตระหนักเรื่องนี้หรือไม่”
“ครับ”
“ถ้าเช่นนั้นคุณก็ควรบอกข้อเท็จจริงนี้แก่เขาไป”
“ผมจะเริ่มการสนทนากับเขาอย่างไรเพื่อไม่ให้เขาเสียความมั่นใจในตนเองครับ”
“เพราะอะไรคุณคิดว่าคุณแดงจะเสียความมั่นใจในตนเองครับ”
“เขาอาจคิดว่าตนเองไม่มีความหมาย”
“ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง คุณคิดว่าเขาไม่มีความหมายด้วยหรือไม่ครับ”
“ไม่เลยครับ”
“แล้วคุณคิดว่าข้อเท็จจริงของสถานการณ์นี้คืออะไรครับ”
“เป็นความไม่เหมาะสมกับหน้าที่ครับ”
“ถ้าเช่นนั้นคุณก็ควรบอกคุณแดงไปตามจริง”
“ฮ้า!” คุณสุรัตน์เข้าถึงช่วงเวลายูเรก้า
ผมยืนยันกับเขาต่อ “เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอๆ เมื่อสภาวการณ์เปลี่ยนไป คนก็ต้องเปลี่ยนตาม บางคนสามารถเปลี่ยนได้ แต่บางคนไม่สามารถเปลี่ยนได้เพราะความไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง หน้าที่และสถานการณ์ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสมครับ”
“โอเคครับ ผมจะบอกคุณแดงว่าเป็นเรื่องของความไม่เหมาะสม แล้วขั้นตอนต่อไปล่ะครับ”
“คุณคิดว่าอย่างไรครับ”
“จากนั้นผมคงแจ้งให้ทราบถึงขั้นตอนการออกจากองค์กร”
จากนั้นเราสองคนลองซ้อมการพูดคุยกันอีกสอง สามรอบ
“ขอบคุณครับโค้ช”