“โค้ชเกรียงศักดิ์ ผมอยากให้ของขวัญปีใหม่ที่ประทับใจเจ้านาย ควรให้อะไรดีครับ”
“คุณชลิต คุณคิดว่าเจ้านายของคุณต้องการอะไรมากที่สุด”
“ยากมากเลยครับ นายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและมีฐานะดีมั่นคง คิดไม่ออกเลยว่ามีอะไรที่นายอยากได้แต่ยังไม่มี”
“ของขวัญไม่จำเป็นต้องเป็นของจับต้องได้เสมอไป ถ้าเป็นของที่จับต้องไม่ได้ล่ะครับ น่าจะเป็นอะไรได้บ้าง”
“น่าจะเป็นความเอาใจใส่ ความรัก และเวลาครับ”
เขาเงียบไปซักพักแล้วก็เข้าถึงบางอ้อ “อ้อ ผมคิดว่า เวลา น่าจะเป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับนายครับ”
“เพราะอะไรครับ”
“ท่านพูดอยู่เสมอๆว่า อยากให้แต่ละวันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง แต่ผมก็คงไม่สามารถทำให้แต่ละวันมีมากกว่า 24 ชม. ได้”
“ก็เป็นเรื่องจริงครับ แต่คุณอาจสามารถช่วยทำให้ 24 ชม. ในแต่ละวันนั้นมีประสิทธิภาพขึ้นได้”
“โค้ชหมายความว่าอย่างไรครับ”
“ปกติแล้วในแต่ละสัปดาห์ คุณใช้เวลาอยู่กับนายมากน้อยแค่ไหนครับ”
“ผมเจอท่านครึ่งชั่วโมงทุกวันครับ เพื่อรายงานความก้าวหน้าของงาน และหารือเรื่องต่างๆเกี่ยวกับทีม สำหรับการประชุมทีมผู้บริหารประจำสัปดาห์ ผมมีโอกาสใช้เวลากับท่านและทีมประมาณ 1 ชม. ครับ”
“เฉลี่ยแล้วคุณใช้เวลากับท่าน 3.5 ชม. ต่อสัปดาห์”
“ใช่ครับ”
“คุณคิดว่าท่านจะทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นหรือไม่ หากใช้เวลากับคุณน้อยลงแล้วยังได้คุณภาพงานเหมือนเดิม หรือใช้เวลากับคุณเท่าเดิมแต่ได้คุณภาพของงานที่ดียิ่งขึ้น”
“เป็นไปได้ครับ ผมอยากลอง ใช้เวลาด้วยกันน้อยลงและได้ผลงานดีเหมือนเดิม”
“เป้าหมายที่เป็นไปได้ และท้าทายน่าจะเป็นอย่างไรครับ”
“โค้ชครับ ผมตั้งเป้าไว้ที่ลดเวลาลง 30% แต่ได้ผลงานเท่าเดิมครับ”
“ดีครับ ซึ่งก็เท่ากับลดลงสัปดาห์ละ 1 ชม. หรือ 52 ชม. ต่อปี เจ้านายของคุณจะสามารถใช้เวลานี้ไปกับสิ่งอื่นๆได้”
“คุณคิดว่าตนเองต้องทำอย่างไรเพื่อให้การลดเวลานี้เป็นจริงขึ้นมาได้ครับ”
“ผมจะใช้แนวคิดที่ว่า ทำให้ถูกเสียตั้งแต่ครั้งแรก”
“ขยายความหน่อยครับ”
“ผมจะใส่ใจในงานตั้งแต่เริ่มต้น ปกติแล้วนายจะสั่งงานระหว่างการประชุมผู้บริหารระดับสูง ถ้าผมไม่เข้าใจงานชิ้นใด ผมจะถามจนเข้าใจชัดเจนทันที ที่ผ่านมาผมถามเพียง 50% เพราะกลัวเสียหน้า ภายหลังก็เรียนรู้ว่าคำถามที่ผมไม่ได้ถามนั้นนำมาซึ่งความเข้าใจผิดมากมาย
การถามคำถามให้เข้าใจชัดเจน 100% สามารถช่วยประหยัดเวลาได้มาก
อย่างที่สอง คือ นายผมเป็นผู้ที่ถามคำถามดีๆมากมาย ในอดีตผมไม่ได้คาดว่าจะถูกถามมากขนาดนี้ ทำให้ไม่ได้เตรียมตัวจึงตอบไม่ได้ทันที แล้วต้องกลับไปหาคำตอบมาให้ทีหลัง ต่อไปนี้ผมจะเตรียมตัว เตรียมข้อมูลให้ดีกว่านี้เพื่อเป็นการประหยัดเวลาของทั้งสองฝ่าย
สิ่งสุดท้าย ผมจะแสดงความคิดเห็นที่ดีกว่านี้ ผมมองออกว่านายเชื่อมั่นในความคิดเห็นของผมเพียง 50% ถ้าผมสามารถทำให้นายมั่นใจในตัวผมมากกว่านี้ งานจะเดินไปได้เร็วขึ้น และเป็นการประหยัดเวลาของทั้งคู่”
“คุณจะทำอย่างไรให้ตนเองสามารถแสดงความคิดเห็นที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ครับ”
“ความคิดเห็นนั้นเป็นเรื่องของดุลยพินิจ โค้ชคิดว่าผมควรทำอย่างไรเพื่อให้มีดุลพินิจที่ดีกว่าเดิมครับ”
“คุณชลิต นายของคุณมักไม่มั่นใจถึงดุลยพินิจของคุณในเรื่องใดมากที่สุด”
“การวิเคราะห์ตลาดครับ”
“เพราะอะไรครับ”
“ผลการวิเคราะห์นั้นมาจากคุณเสรี ลูกน้องโดยตรงของผม เขาเข้าใจงานของตนดี แต่ผลการวิเคราะห์ของเขามักขาดใจความหลักที่มีความสำคัญ”
“คุณคิดว่าควรทำอย่างไรเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ครับ”
“ผมจะโค้ชเขาระหว่างการเตรียมรายงาน เพื่อให้มั่นใจว่าผลวิเคราะห์ที่ได้นั้นแน่น มีข้อมูลรองรับแม้ถูกเจ้านายของผมท้าทาย ถ้าผมใช้เวลาโค้ชเขาสักสอง สามครั้งน่าจะช่วยให้เขามีดุลยพินิจที่ดีมากขึ้นในการเตรียมรายงาน”
“ดีมากครับ มีอะไรอีกบ้างที่คุณสามารถทำได้”
“โค้ชครับ การประชุมผู้บริหารระดับสูงนั้นเริ่มช้า 10 นาทีเสมอเพราะผมมาสาย ก่อนการประชุมผมใช้เวลามากเกินไปในการเตรียมข้อมูล ผมรู้ว่านายเป็นคนใจดี ไม่เคยบ่นเวลาที่ผมมาสาย ทำให้ผมเข้าประชุมสายจนติดเป็นนิสัย ทุกคนต้องมานั่งรอผมคนเดียว
ถ้าผมเตรียมข้อมูลก่อนล่วงหน้าสักหนึ่งวัน ผมก็จะไม่เข้าประชุมสาย ประหยัดเวลาของนายไปด้วย
โค้ชครับ ผมคิดว่าเจ้านายจะต้องชอบของขวัญปีใหม่ที่ผมจะให้ท่านแน่ๆครับ”
